บทสรุป - Assassin's Creed IV: Black Flag
BY Decibel per - oxide
.ปี 1715 ต้นศตวรรษที่ 18 หลังการเดินทางสำรวจเปิดเส้นทางของ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส สู่โลกใหม่ ภายใต้ชื่อ สหพันธรัฐอินเดียตะวันตก (หรือ ทวีปเอมริกา ในปัจจุบัน ) เหล่าประเทศมหาอำนาจของยุโรปมากมายต้องการที่จะครอบครองดินแดนแห่งนี้ จากแค่ภาระกิจทางการฑูตจนถึงสงครามที่ก่อตัวขยายไปทั่วภูมิภาค รวมทั้งการแข่งขันกันด้านการแสดงแสนยานุภาพของราชนาวีของแต่ละประเทศอย่างกว้างขวางจนเกิดความตรึงเครียดไปทั่วน่านน้ำ แต่ ..ในความพยายามอย่างหนักในเรื่องข้อบทกฎหมายก็ย่อมบ่มเพาะความคิดต่างของเหล่าเสรีชนที่ร่างกายและวิญญาณถูกหล่อเลี้ยงด้วยการผจญภัย การปล้นสดมภ์ สุรา นารี และความอิสระเสรีที่ไม่มีวันสิ้นสุดที่ โลกใหม่ นี้มีให้ พวกเขา หวังจะสร้างเส้นทางของตนเอง ปฏิเสธทในทุกข้อบทกฎหมายในการมีอยู่ของสิทธิอำนาจจากประเทศมหาอำนาจทั้งปวง พวกเขาคือคนโฉดแห่งน่านน้ำเสรี พวกเขาคือ “ โจรสลัด “
“ โจรสลัด “ ป่าเถื่อน หยาบคายไม่สนใจในทุกข้อกฎหมาย แต่กระหายมนการผจญภัย สมบัติ และความเสมอภาคที่ปราศจากการกดขี่ของกฎเกณฑ์ต่างๆ ของระบอบในโลกเก่า อิสระภาพทางความคิดและจิตวิญญาณ และเป็นแม่แบบของ ประชาธิปไตย ที่ยังไม่เคยมีใครเข้าใจมัน
SEQUENCE 01
Memory 01 - Edward Kenway
Cape Bonavista – June 1715
เรือโจรสลัดลำนึงกำลังถูกโจมตีอย่างหนักจากนักฆ่าที่กองทัพสเปนส่งมา และดูเหมือนชีวิตในความฝันในแบบของEdward Kenway ที่อยู่บนเรือนี้จะไม่ราบลื่นมากนักเสียแล้ว หลังถูกลูกกระสุนปืนใหญ่นับไม่ทั่วยิงเข้าใส่จนพลขับกระเด็นตกเรือไป กัปตันตะโกนลั่นให้ใครก็ได้รีบไปบังขับเรือโดยด่วน
- เดินเข้าไปที่พวงมาลัยเรือแล้วทำการขับเรือสั่งยิงเรือศัตรูให้หมด เรียนรู้การบังคับเรือเบื้องต้น …..
[แกนอนาล็อกซ้ายบังคับทิศทาง / แกนอนาล็อกขวาบังคับมุมกล้อง
[A - เร่งความเร็ว / B – ลดความเร็ว]
[LT เล็งทิศทางปืน แล้วกด RT ยิงปืนใหญ่ข้างลำเรือ]
หลังจากทำลายเรือศัตรูจนได้จนหมดแล้ว เรือแม่ของศัตรูจะเข้าโจมตีต่ออย่างหนัก ในขณะที่ Edward กำลังหาทางเอาตัวรอดเขาก็ได้เผชิญหน้ากับ นักฆ่า ที่หมายมั่นจะฆ่าโจรสลัดทุกคนที่เห็นตามคำสั่งที่ได้รับมา โชคดีที่กระสุนปืนใหญ่ยิงเข้ามาใส่เรืออย่างจังจนเรือระเบิดทำให้ทุกคนกระเด็นไปคนละทิศละทาง
Edward Kenway หนุ่มน้อยใจร้อนชาวเวลส์ ที่มีพ่อเป็นอังกฤษ แม่เป็นเวลส์ เขาเป็นคนมีความสามารถและฉลาด แต่ติดนิสัยใจร้อน มีความประมาท โดยทั่วไปแล้วเขาเป็นคนใจดี แต่บางทีก็เห็นแก่ตัว มีนิสัยชอบไตร่ตรองความคิดแผลงๆ ของตัวเองแล้วใช้วิจารณญาณแยกแยะเหตุผลเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆอยู่เสมอและนิสัยเสียเกี่ยวกับการดื่มอยากหนักทำให้เขาสร้างปัญหาให้กับคนรอบข้างมาตลอด
จนครอบครัวของ Edward ย้ายมาที่ Bristol ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ที่ที่เขาพบกับ Caroline Scott แฟนสาวที่เขาแต่งงานด้วย เธอแก่กว่าเขาถึง 2 ปี ทั้งหน้าตาสละสวย และ ร่ำรวย แต่ว่า Caroline ก็เบื่อหน่ายกับนิสัยความเหลาะแหละของ Edward ความไม่จริงจังกับการทำงาน ในฐานะสามี แต่ Edward นั้นมีความคิดที่จะออกเรือไปยังคาบสมุทรอินดีสตะวันตก เพื่อล่าความมั่งคั่ง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตหลังการแต่งงานอย่างมีความสุขจนได้เอ่ยปากขอกับCaroline ที่จะออกทะเลแบบจริงๆจังซักครั้ง ซักปีหรือไม่ก็สองปี สุดท้ายก็ทำให้ Caroline ใจอ่อนแต่เธอก็ยังยืนยันที่จะให้โอกาส Edward ออกทะเลเพื่อทำตามความฝันก่อนแต่งงานแค่ 1 ปีเท่านั้น !!
ในปี 1713 ด้วยสนธิสัญญาอูเทรคต์ทำให้สามารถยุติความขัดแย้งระหว่างจักรวรรดิทั้งหมดลงได้ กองเรืออังกฤษไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป และรวมถึงใน Eastern ด้วย ทำให้นักเดินเรือกว่าพันคนต้องตกงาน ดังคำกล่าวในสมัยนั้นว่า “มือที่ไม่ได้ทำงานคือโรงงานของปีศาจ” สำหรับชายหนุ่มแล้วสถานการณ์นี้นั้นไม่ดีนัก แต่สำหรับ Edward สถานะการ์ณทั้งหมดกลับเป็นใบเบิกทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้เขาเข้าสู่เส้นทางของกลาสีในเรือโจรสลัดเพื่อท่องไปในโลกเสรีอย่างเต็มตัว แต่ใครจะรู้ได้ว่ามันกลับทำให้ชีวิตของ Edward เปลี่ยนไปตลอดกาล
- โชคยังดีที่ Edward ยังรอดชีวิตเขาพยายามว่ายน้ำขึ้นฝั่งเพื่อเอาตัวรอด (RT – ว่ายน้ำ) แต่เมื่อถึงบนฝั่งเขาก็ต้องหัวเราะออกมาเมื่อเห็นนักฆ่าที่กองทัพสเปนจ้างมานอนบาดเจ็บอยู่บนชายหาดเช่นกัน แต่ Edward ก็ยังพยายามจะเข้าไปช่วยแต่มันคงยอมตายมากกว่าที่จะให้โจรสลัดมาช่วย นักฆ่า จึงพยายามวิ่งหนีไป สำรวจที่หมู่บ้านริมทะเลให้ทั่วจนพบที่ปีนขึ้นไปบนหลังคาบนจนถึงหน้าผาชั้นบนจะพบนักฆ่ากำลังวิ่งหนีไป วิ่งตามมันไปแล้วจัดการฆ่ามันซะ Edward ค้นทุกอย่างในตัวมันหลักฐานที่ได้คือชื่อของมัน Duncan Walpole และสมบัติบางอย่างที่ดูสำคัญมาก และมันคงจะมากพอที่จะทำให้ Edward ได้เงินมาใช้แบบสบายๆถ้าปลอมตัวเป็น Duncan ซักพัก Edward เปลี่ยนชุดของนักฆ่าและเอาทุกอย่างที่มันมีมาเป็นของเขาเสมือนที่มันพยายามเอาทุกอย่างไปจากเขาก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปที่เมือง Havana ตามที่นายจ้างชาวสเปนของมันระบุเอาไว้ในสัญญา
- จากนั้นเดินทางไปที่จุด Objective สีเขียวที่ขึ้นมาตามทางจนพบกับพ่อค้าคนนึงที่เรือสินค้าของเขาถูกทหารอังกฎษกำลังจะยึดสินค้าของเขาไป ลอบจัดการมันให้หมดด้วยจุดซ่อนตัว (Stalking Zone) แล้วเข้าไปช่วยพ่อค้าเอาไว้ พ่อค้าแนะนำตัวว่าชื่อ Stede Bonnet ในขณะที่ Edward ก็บอกชื่อ Duncan ไป Bonnet จึงจะตอบแทนนำใจที่ Edward ช่วยเอาไว้จึงจะไปส่งที่เมืองข้างหน้าที่ใกล้ที่สุดให้ซึ่งก็คือ Havana จุดหมายเดียวกับ Edward พอดี จากนั้นก็โดดลงน้ำว่ายน้ำไปที่เรือแล้วขับออกเดินทางได้เลย
** Pirate History **
Stede Bonnet นั้นมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ เขาเคยเป็นเศรษฐีที่ดินใน Barbados ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นโจรสลัดที่ออกปล้นสินค้าในแถบตะวันออกเพื่อเอาสินค้านั้นมาขายทำกำไรเสียเอง โดยทั่วไป Bonnet จะแสดงตนให้คนทั่วไปเห็นว่าเขาเป็นพ่อค้ามากกว่าเป็นโจรสลัดให้คนทั่วไปได้รับรู้ และมักจะเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเรืออยู่เป็นประจำจนยากที่คนจะจำมันได้ ก่อนที่จะถูกจับประหารในปี 1718 ตามประวัติศาสตร์
************************************************************************
Present Day Mission 1 - Welcome to Abstergo Entertainment
ทุกอย่างเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ !! …..เสียงจากเจ้าหน้าที่หญิง Melanie Lemay บอกกับลูกค้าที่เพิ่งจบทริปการเดินทางโลดแล่นในความทรงจำ ความบันเทิงที่น่าตื่นตาที่สามารถใช้เงินซื้อได้ในอนาคตอันใกล้จากบริษัท Abstergo Industriesด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงไปยังพลังที่ลึกลับของ “Apple of Eden” จากเครื่องเชื่อมต่อความทรงจำเวอร์ชันล่าสุด “ Animus Omega “
เด็กหนุ่มที่เพิ่งจบการทดสอบขั้นแรกเสร็จสมบูรณ์ก็ถูกเชื้อเชิญให้ตาม Melanie ขึ้นไปชั้นบนต่อ เพื่อพบกับ Evan Dean หัวหน้าโครงการผู้ดูแล Simple Project 17 CEO ชาวฝรั่งเศสสุดไฮเปอร์ ก่อนที่จะให้เด็กหนุ่มโชคดีที่ชื่อ “ John “เข้าร่วม Project 17 ต่อที่ส่วนการทำงานหลักต่อ หลังคุยจบก็เข้าไปนั่งในเครื่อง Animus Omega แล้วเริ่มเชื่อมต่อความทรงจำต่อได้เลย
*****************************************************************************
SEQUENCE 02
Memory 01 – Lively Havana
Havana ประเทศ Cuba ….หลังจากเรือของ Bonnet เทียบท่าเพื่อส่ง Edward ที่ท่าเรือ Bonnet ก็จะพาทัวร์แนะนำสิ่งต่างๆที่ต้องทำในเมืองเบื้องต้นให้
- เรียนรู้การซื้อของในร้านขายอาวุธ
- เรียนรู้การเปิดแผนที่โดยใช้จุด View point ของตึกที่สูงที่สุดของแต่ละพื้นที่
เมื่อกลับลงมา Bonnet จะถูกโจรขโมยเงินไป วิ่งตามไล่จับมันกลับคืนมา จากนั้นตาม Bonnet เข้าไปจนถึงบาร์ก็จะถูกโจรสลัดเพื่อนเก่าที่จำ Edward ได้เข้ามาทักเขาจึงพยายามปิดปากมันเสียก่อนที่จะเสียเรื่อง จัดการพวกโจรสลัดปากดีในบาร์ให้หมด เพื่อเป็นการเรียนรู้การต่อสู้เบื้องต้น
** เรียนรู้การต่อสู้เบื้องต้น **
X – โจมตีด้วยอาวุธดาบและหมัด
B – เค๊าท์เตอร์การโจมตีจากศัตรู โดยสังเกตบนหัวของศัตรูที่กำลังโจมตีเข้ามาจะมีวงกลมสีแดงอยู่
B – A เค๊าท์เตอร์แล้วทำให้ศัตรูเสียหลัก
B – X เค๊าท์เตอร์แล้วทำคอมโบต่อ
Y – ใช้อาวุธเสริม ทั้งปืน ระเบิดควัน และอีกมากมาย
เมื่อมีเรื่องจนมีทหารเข้ามาจับกุมกด Y ใช้ Smoke Bomb พรางตัวแล้วรีบหนีออกจากพื้นที่สีแดง
******************************************************
** Optional Objective 100 % **
* การโดดแท็คคนร้ายที่กำลังหนี
* ใช้ระเบิดควันในการหนีทหารที่เข้ามาล้อมจับ
*******************************************************
ดูจากแผนที่จะมีจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองนั่นคือ Main Mission หลักที่ต้องไปทำต่อไป
Memory 02 – And my Sugar?
เดินทางกลับไปหา Bonnet ที่ท่าเรือเขาจะบอกว่าจากการที่ Edward ไปมีเรื่องที่บาร์เลยทำให้พวกทหารสเปนมายึดสินค้าของเขาไปทั้งหมดแน่นอนรวมทั้งของๆ Edward ด้วย จากนั้น Edward จึงต้องหาทางที่จะเอาของทั้งหมดคืนมา
** เรียนรู้การใช้ Eagle Vision **
กดแกนอนาล็อกซ้าย (L) ตรงๆจะสามารถมองเห็นภาพที่แตกต่างไปจากเดิมและจะทำให้ Edward เห็นสิ่งต่างๆที่ซ่อนอยู่ได้ชัดเจนขึ้นด้วย โดยเมื่อมองหาแล้วจะทำให้ศัตรูเป็นสีแดงซึ่งจะสามารถจดจำทิศทางและตำแหน่งของศัตรูนั้นๆได้ด้วยซึ่งเป็นประโยชน์เพื่อใช้ในการลักลอบตามที่ต่างๆนั่นเอง ซึ่งในกรณีที่จะมองหาเป้าหมายสำคัญก็จะเห็นทหารเป้าหมายเป็นสีเหลือง
จากนั้นลอบตามาทหารเป้าหมายไปอย่าให้มันรู้ตัวจนถึงจุดที่พวกมันคุยกัน พยายามตามเข้าไปในบริเวณในวงการสนทนาเรื่อยๆจนถึงลานประหาร เป้าหมายก็จะเปลี่ยนเป็นหัวหน้าทหารที่อยู่บนเวทีแทน จากนั้นตามหัวหน้าทหารไปต่อ ระหว่างทางที่มีทหารศัตรูขวางทางอยู่ก็สามารถใช้พวกสาวๆ Dancer ในการจ้างเธอให้ล่อพวกทหารให้ไปพ้นทางได้ด้วย (กด Bจ่ายเงินให้กับกลุ่ม Dancer) เมื่อตามมันไปจนถึงที่ที่ๆเหมาะก็จัดการลอบเข้าไปล้วงกระเป๋าขโมยกุญแจของมันมา (เดินเข้าไปใกล้ๆแล้วกด B ค้างหรือจะอัดให้สลบแล้วเก็บมาก็ได้ถ้าทำได้น๊ะ ) เมื่อได้กถญแจมาแล้วเป้าหมายใหม่จะขึ้นมาบนห้องเก็บของด้านบนป้อมของทหารสเปนแทน
** เรียนรู้การแฝงตัวและลอบสังหาร **
นอกจากจุดซ่อนตัว (Stalking Zone) ตามกองฟาง รถขนฟาง ตู้เก็บของ พงหญ้าต่างๆที่จะสามารถซ่อนตัวได้แล้ว ยังสามารถหลบตามมุมของอาคารต่างๆได้ด้วยโดยการเข้าไปยืนข้างๆมุมก็จะอยู่ในสภาพพร้อมที่จะจัดการเป้าหมายได้ ซึ่งสามารถใช้การผิวปาก (Whistle) เรียกศัตรูให้เดินเข้ามาให้เชือดได้ด้วย
จากนั้นก็ลอบเข้าไปในป้อมของทหารสเปนเป้าหมายคือห้องเก็บของที่อยู่ชั้นบนของกำแพงป้อม เมื่อลอบเข้าไปในห้องได้แล้ว Edward เลือกที่จะเอาไอเทมที่ได้จาก Duncan กลับมา และเขาก็คิดว่าไม่มีทางเอาน้ำตาลมากมายที่เป็นสินค้าของ Bonnet ออกมาได้หมดด้วยแน่นอน เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วก็โดดหนีออกจากป้อมลงน้ำได้เลยแล้วกลับมาหาBonnet ที่ท่าเรือ ก่อนที่ Edward จะบอกว่าสินค้าของเขาหายไปหมดแล้วแต่ Edward ก็จะชดเชยเป็นเงินให้กับ Bonnetแทน ก่อนที่ Bonnet จะร่ำลา Edward ออกเรือไปค้าขายต่อ Edward ก็ตัดสินใจบอกว่าชื่อจริงขิงเขาคือ Edward ซึ่งชื่อDuncan เป็นชื่อที่ใช้ในหน่วยงานรัฐเท่านั้น แล้วเขาก็จะขออยู่ที่นี่ต่อสักพักเพื่อไปรับรางวัลที่ Duncan ตัวจริงมันถูกจ้างวานมาก่อน
*************************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้พวก Dancer ในการล่อพวกทหารให้ไปพ้นทางในตอนลอบตามเป้าหมาย
* ตลอดภาระกิจลอบเข้าป้อมศัตรูห้ามมีการต่อสู้
*************************************************************
Memory 03 – Mister Walpole I Resume?
เดินทางไปยังจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ Edward จะเข้าไปที่ที่พักของผู้ว่าการรัฐ Governor’s Mansion เพื่อมาหาผู้ว่าจ้างเพื่อจะรับร้างรางวัลแทน Walpole เข้ามาด้านในสวนหน้าตึกจะพบกับ Woodes Roger และ กัปตัน Julen Du Casse พวกมันได้ยินชื่อเสียงของนักล่าโจรสลัดอย่าง Walpole เป็นอย่างดี พวกมันกำลังซ้อมยิงปืนกันอยู่จึงอยากจะชวนแข่งยิงปืนเล็กๆน้อยๆเพื่อทดสอบฝีมือ
- จัดการยิงเป้าหุ่นซ่อมยิงให้ครบทุกตัวภายในเวลากำหนด ซึ่งเป็นการเรียนรู้การใช้ปืนเบื้องต้น กดปุ่มทิศทางซ้ายเลือกใช้ปืน Pistol แล้วกด LT เล็ง RT ในการยิง และ LB รีโหลดกระสุน (ซึ่งจะช้ามากกก)
จากนั้นตามทั้งคู่เข้าด้านในต่อ Julen จะถามถึงดาบ Hidden Blade คู่กายของนักฆ่าที่ดูเหมือน Edward จะไม่มี ซึ่งEdward ก็ได้แต่แก้ตัวไม่ว่ามันพังไปตอนทำงาน มันก็ให้ของใหม่แทนหนึ่งอัน ก่อนที่จะให้ทดสอบจัดการศัตรูด้วยHidden Blade กับหุ่นซ้อมให้ดู
- ใช้ Hidden Blade จัดการหุ่นตัวแรกในแบบปกติ
- เข้าไปแอบในกองฟางจัดการกับหุ่นตัวที่ 2
- เข้าไปแอบที่มุมตึกจัดการกับหุ่นตัวที่ 3
- ปีนหลังคาบ้านโดดลงมาจัดการหุ่นตัวที่ 4
- และวิ่งเข้าไปเสียบหุ่นตัวที่ 5 (RT + X)
เมื่อทดสอบกันเล่นๆเสร็จแล้วเดินตามทั้งคู่เข้าไปด้านในจะได้พบกับผู้ว่าการรัฐ Laureano Torres Y Ayala เจ้านายที่ว่าจ้าง Walpole เอาไว้ Edward จึงเอาผลึกบางอย่างที่ได้จากศพ Walpole มอบให้ Torres เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าจริงๆมันคืออะไร รู้แค่ว่าดูท่าทางนายจ้างจะพึงพอใจกับของที่ได้รับก็คงได้รางวัลก้อนโตแน่นอนแล้ว ก่อนที่ Torres จะพาทั้ง 3 คนเข้าไปในห้องประชุม เขาพูดถึงความแหลกเหลวมากมายของมหาอำนาจทุกประเทศที่ต้องมีการชำระล้างกันครั้งใหญ่ ก่อนจะมอบแหวนแห่ง Templar ให้ทั้ง 3 คนเข้าร่วมเป็น Templar อย่างเต็มตัว จากนั้นมันจะพูดถึงเรื่องแผนการใหญ่ของมันและสมบัติมหาศาลที่จะให้สิ่งที่มันจ้าง Walpole ไปมาหาเป็นกุญแจที่ใช้เปิดขุมทรัพย์ที่ว่า หลังวางแผนเสร็จ Edwardฉวยโอกาศหยิบเอาแผนที่ออกมาด้วย ก่อนที่ Torres จะนัดให้ Edward มารับรางวัลอีกครั้งหลังจบงาน ซึ่งในวันพรุ่งนี้มันจะนัดให้ไปเจอที่ท่าเรืออีกครั้ง ทำเอา Edward ค่อนข้างจะหงุดหงิดที่ยังไม่ได้เงินรางวัลที่เขาต้องการแถมยังถูกนำเข้าสู่องค์กร Templar โดยไม่ได้ทันตั้งตัวเข้าไปอีก
**************************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ยิงหุ่นซ้อมยิงให้ทันตามเวลาที่กำหนด
* ล้วงกระเป๋า Templar ทั้ง 3 คนในขณะที่กำลังประชุมอยู่
*************************************************************
Memory 04 – A man they call The Sage
เดินทางไปยังจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ Edward จะเข้าไปพบกับ Roger ที่ท่าเรือซึ่งก็บังเอิญเจอเข้า Bonnetที่กำลังขนสินค้าอยู่มาทักด้วยชื่อ Edward ทำให้ Roger สงสัยแต่ Edward ก็พยายามแก้ตัวไปว่าเป็นชื่อปลอมที่ตั้งขึ้นเพื่อตบตาคนอื่นเพราะเขาเป็นนักฆ่า ก่อนที่ Roger จะพาไปดูตัวนักโทษที่ชื่อ The Sage ที่ Torres บอกว่ามันจะเป็นคนพาไปที่ซ่อนของสิ่งล้ำค่า ขณะที่ทั้งหมดกำลังคุมตัวนักโทษเดินไปตามทางพวกนักฆ่าก็บุกเข้ามาลอบทำร้ายจทำให้ The Sage ฉวยโอกาศหนีไปได้ จัดการพวกนักฆ่าที่ขวางทางแล้ววิ่งตาม The Sage ไปได้เลย พยายามวิ่งตามมันให้ทัน ( ซึ่งเส้นทางที่เหมาะสมคือ เมื่อมันปีนตึกแรกก็โดดเกาะไม้ริมหน้าต่างขวาของตึกไปก็จะปีนขึ้นหลังคาทันมันพอดี หลังจากจับตัว The Sage ได้แล้ว Edward ก็นำตัวไปส่งมอบกับพวก Templar ซึ่งถึงแม้เขาจะยังงงๆกับเรื่องต่างๆอยู่ แต่ทุกอย่างก็หายไปจนหมดสิ้นเมื่อได้รับเงินถุงใหญ่ค่าตอบแทนจาก Torres มาอยู่ในมือแล้ว
***********************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้ปืนจัดการพวกนักฆ่าที่เข้ามาลอบโจมตี
* กระโดดแท็กจับตัว The Sage จากด้านบน
***********************************************
Memory 05 – Claiming What’s Due
เดินทางไปยังจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ Edward จะเข้าไปพบกับ Bonnet ที่บาร์ Edward ถึงแม้จะได้รางวัลมาตามที่เขาต้องการแล้วแต่ก็อดกังวลใจถึงสิ่งที่ทำลงไปไม่ได้ จึงระบายให้ Bonnet ฟังเกี่ยวกับเรื่องของนักโทษชื่อ The Sage ที่ถูกพวก Templar ควบคุมตัวเอาไว้ หลังจากเมาได้ที่แล้วเขาจึงตัดสินใจที่จะลองลอบเข้าไปถามเรื่องราวทั้งหมดกับ The Sage เพื่อให้หายข้องใจ จากนั้นเดินทางไปที่จุดหมายที่หน้าที่คุมขัง ลอบจัดการทหารเข้าไปจนถึงด้านหน้าคุก จะพบว่ามีร่องรอยการต่อสู้อยู่ แถมสัญญาณเตือนภัยก็เริ่มดังขึ้นพร้อมเสียงตะโกนจากทหารยามถึงการที่ The Sage หนีออกไปได้ ความซวยมาถึงตัว Edward เมื่อ ทหารมากมายเข้ามาจับเขา แถมผู้ว่าการรัฐ Torres ก็ยังบอกว่าเขาเป็นคนทรยศที่ปล่อยตัว The Sage ไปอีก จึงทำให้ Edward โดนจับตัวไปคุมขังทันที แต่ใครเลยจะรู้ว่าชะตากรรมที่ดูเหมือนจะดูโชคร้ายจะนำพา Edward ไปถึงฝั่งฝันที่เข้าต้องการอย่างรวดเร็วเกินที่จะตั้งตัว
***********************************************
** Optional Objective 100 % **
* ลอบฆ่าทหารในจุดซ่อนตัวต่างๆ 3 คน
* ลอบเข้าไปที่คุกโดยไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น
***********************************************
Memory 06 – The Treasure Fleet
Edward รู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในเรือขนนักโทษร่วมกับนักโทษโจรสลัดมากมายเสียแล้ว Edward นั่งไกลกับโจรสลัดผิวสีคนหนึ่ง ก่อนที่ทั้งคู่จะตกลงใจที่จะร่วมกันหนีโดยการช่วยกันกระแทกเหล็กที่มัดมือทั้งคู่อยู่ให้หลุดจนเป็นอิสระ
- ลอบจัดการทหารในเรือให้หมดแล้วเข้าไปจนถึงห้องที่เก็บอาวุธทั้งหมดด้านใน นอกจาก Edward จะได้อาวุธทั้งหมดคืนมาแล้วยังจะได้เกราะไหล่ที่วางอยู่มาใช้ด้วย จากนั้นขึ้นไปด้านบนดาดฟ้าเรือ จัดการทหารให้หมดแล้วปล่อยตัวพวกโจรสลัดที่ถูกจับตัวเอาไว้ให้เป็นอิสระ จากนั้นก็ลอบเข้าไปจัดการกับเรือต่างๆรอบๆกองเรือจัดการทหารให้หมดแล้วช่วยลูกเรือโจรสลัดออกมาให้ได้ทั้งหมดทุกจุด 23 คน แล้วเข้าไปจัดการสังหารผู้บัญชาการทหารที่ออกมาซะ ทั้งหมดก็จะยึดเรือเอาไว้ได้แล้ว แต่ทกุคนยังไม่ทันได้ดีใจพายุขนาดใหญ่ก็กำลังพัดเข้ามาใส่จนทะเลปั่นป่วน Edward จึงตัดสินใจขับเรือพาทุกคนหนีออกจากที่นี่
เรียนรู้การบังคับเรือ Jackdaw
A – เร่งความเร็ว
B – ลดความเร็ว
X – ป้องกันตัว
Y – ยิงปืนเล็ก (กดค้างเมื่อเป้าหมายขึ้นมา)
LT – เล็งยิงปืนใหญ่ RT – ยิงปืนใหญ่
RT – ยิงปืนใหญ่ แบบ Heavy Shot
LB – ใช้อาวุธเสริม (Mortar)
RB – ใช้กล้องส่องทางไกล
แกนอนาล็อคซ้าย (L) บังคับทิศทาง
แกนอนาล็อคขวา (R) บังคับมุมกล้อง
ปุ่มทิศทาง - ให้ลูกเรือร้องเพลงปลุกใจ
- บังคับเรือจัดการเรือศัตรูทุกลำที่ขวางหน้าแล้วขับหลบพายุหมุนออกจากพื้นที่ให้ได้ เมื่อพ้นออกมาจากพายุแล้วEdward ก็มีเวลาทักทายกับคนอื่นๆ ชายร่างกำยำผิวสีแนะนำตัวเองว่า Adewale เขาเป็นต้นเรือของเรือ jackdaw นี้ก่อนที่กัปตันจะโดนฆ่าตายและถูกยึดเรือโดยพวกทหารสเปน แต่ก่อนที่ Edward จะขึ้นเป็นกัปตันคนใหม่ของเรือ jackdawก่อนอื่นเขาต้องไปหาลูกเรือดีๆมาเพิ่มก่อน
***********************************************
** Optional Objective 100 % **
* ช่วยโจรสลัดให้ครบทั้ง 23 คนก่อนฆ่ากัปตัน
* ลอบฆ่าศัตรูจากมุมของที่ต่างๆ 3 คน
***********************************************
เรียนรู้ระบบของ World Map
ในการเดินเรือในท้องทะเลอันกว้างใหญ่นั้นมีเรื่องต้องเรียนรู้คือ
- จุดเนื้อเรื่องที่คุณต้องไปคือ จุดเครื่องหมาย ! สีเหลือง
- คุณสามารถใข้การเดินทางแบบรวดเร็ว (Fast Travel) ได้กับสภานที่ที่เคยไปมาแล้วโดยการกด X ที่สถานที่นั้นๆแล้วกดตกลง
- ระหว่างทางที่จะเจอลังไอเทมลอยน้ำอยู่สามารถกด X ในการเก็บได้ซึ่งมีทั้งสินค้าและลูกเรือ
- การโจมตีเรือศัตรูนั้นทำได้ แต่จะทำให้คุณมีระดีับค่าหัวที่สูงขึ้นด้วย
- เรือของศัตรูจะไม่โจมตีคุณก่อนถ้าคุณไม่โจมตีมันก่อนหรือในกรณีที่คุณมีค่าหัวในระดับ 3 กระโหลก
- ในกรณีเรือของคุณเข้าไปในเขุตสีแดงของศัตรูคุณจะถูกโจมตีทันทีเมื่อเข้าระยะสายตาของเรือศัตรู
- ในกรณีชนะการค่อสู้ สามารถบุกขึ้นไปจัดการศัตรูบนเรือ โดยต้องโจมตีอย่าเรือศัตรูจมแล้วแล่นเข้าไปกด ฺB ค้างใกล้ๆมัน หรือ ยิงให้จมแล้วเข้าไปเก็บสินค้าเอาก็ได้ (แต่จะได้จำนวนสินค้าน้อยว่า)
- ในกรณีพ่ายแพ้คุณจะเริ่มใหม่ที่จุดออโต้เซฟที่ใกล้ที่สุด
SEQUENCE 03
Memory 01 – This Tyro Captain
เดือน กันยายน ปี 1715 …..หลังจาก Edward ได้เรือ jackdaw มาครอบครองพร้อมต้นเรือและลูกเรือจำนวนไม่กี่หยิบมือแต่ก็หนีจากกองทัพสเปนและความบ้าคลั่งของพายุมาได้ สิ่งแรกที่ Adewale ต้นเรือแนะนำคือ หาอาหารมาประทังชีวิตกันก่อน จากนั้นขับเรือไปที่จุดหมายสีเขียวทึ่ขึ้นมาจนถึงเกาะ Abaco island เกาะที่พอจะมีสัตว์ต่างๆให้พอไล่ล่ามาเป็นอาหารได้ใกล้ที่สุด เมื่อลงมาบนเกาะแล้วก็เริ่มเรียนรู้การล่าสัตว์กันเลย
เรียนรู้ระบบการล่าสัตว์และประดิษฐสิ่งของ Hunting & crafting
- การล่าสัตว์ต่างๆนั้นก่อนอื่นต้องเข้าไปในจุดที่สามารถซ่อนตัวได้ตามกองฟาง ดงหญ้าต่างๆก่อนสัตว์ต่างๆจึงจะออกมาให้เห็น จากนั้นก็จัดการล่าตามเป้าหมายเริ่มจาก
ล่าเสือ Ocelot 2 ตัว
ล่า Iguana 2 ตัว
เข้าเมนูเลือกคำสั่ง Crafting เลือกสร้าง Pistol Holster II (ซองใส่ปืนกระบอกที่ 2) และ Heath upgrade I (อัพเกรดชุดเกราะเพื่อเพิ่มพลังชีวิต) จากนั้นกลับไปหา Adewale ที่เรือเขาจะให้ปืนสั้นมีอีกหนึ่งกระบอกซึ่งเป็นอีกหนึ่งความสามารถในการใช้ปืน 2 กระบอกของ Edward (Multi – Pistol) โดยการกด Y ค้าง หลังจากได้อาหารมากินจนรอดตายกันแล้วAdewale จะแนะนำให้ไปหาลูกเรือดีๆมาเสริมทัพกันต่อ จากนั้นก็ออกเดินทางต่อได้เลย
*******************************************
** Optional Objective 100 % **
* ฆ่า Iguana ด้วยปืน
* ฆ่าสัตว์โดยการกระโดดจากที่สูง
********************************************
Memory 02 – Now Hiring
เดินเรือต่อมาตามจุดเป้าหมายสีเขียวจนถึงเป้าหมายที่เมือง Nassau เมืองที่เป็นศูนย์รวมของโจรสลัดมากมายที่เขามาเพื่อเติมเสบียงและหาลูกเรือ ซึ่งในเมืองก็จะมีจุดต่างๆที่ให้ทำมากมายทั้ง
- ร้านขายอาวุธ
- ร้านอัพเกรดเรือ Harbour Master [ซึ่งตอนนี้อย่าแปลกใจที่เข้าร้านขายของแต่งเรือ Harbour Master ไม่ได้เพราะตอนนี้Edward ยังไม่ได้เป็นกัปตันเต็มตัวนั่นเอง]
- จุดรับงานจ้างวานฆ่า Assassin Contract
- จุดเก็บตัวโน้ตเพลงของลูกเรือ
- จุด View Point อีก 7 แห่งที่ต้องเปิดแผนที่
จากนั้นเดินทางไปยังบาร์ ( Tavern) จะพบกับเพื่อนของ Edward กัปตัน Edward Teach และ Benjamin ซึ่งเมื่อEdward แนะนำ Adewale ว่าเป็นต้นเรือของเขา ก็ทำเอาทุกคนถึงกับหัวเราะที่ Edward มาขอคำแนะนำเกี่ยวกับการหาลูกเรือ
เรียนรู้ระบบการหาลูกเรือ (Crew Recruitment)
ในระหว่างเดินทางโดยเรือทุกครั้งที่เกิดการต่อสู้ทางยุทธนาวี การเข้าไปสู้บนเรือของศัตรูอาจเกิดการสูญเสียของลูกเรือได้เสมอ โดยดูได้จากเกทลูกเรือใต้พลังชีวิตของเรือทางซ้ายบนของจอ ซึ่งถ้าเริ่มลดลง (จาก 20 เต็มในจำนวนเต็มของลูกเรือในช่วงแรกของ Jackdaw) ซึ่งก็ต้องหาลูกเรือมาเสริมทีมให้เต็มเพิ่มประสิทธิ์ภาพในการรบ โดยสามารถหาลูกเรือได้จาก
- เสียงเงินจ้างเอาจาก บาร์ ( Tavern) ที่อยู่ตามเมืองต่างๆ
- ช่วยเหลือพวกลูกเรือที่โดนทหารทำร้ายหรือจับกุมตามจุดในเมืองและตามเกาะต่างๆแบบแรนด้อม
- ได้จากเรือของศัตรูหลังจากการรบชนะ
- ได้จากที่ลอยอยู่ในน้ำ (กด X)เก็บไอเทมที่ลอยอยู่ในน้ำ
จากนั้นจะมีจุด Recruit Pirate ขึ้นมาในแผนที่ ตามไปจัดการทหารแล้วช่วยพวกเขามาให้หมดทุกจุดก็จะได้ลูกเรือมาทำงานครบตามจำนวน 20 นายแล้ว จากนั้นกลับไปหา Edward Teach และ Benjamin ที่บาร์ซึ่งก็จะพบกัปตัน Jame Kidd อยู่ด้วย Edward จึงกึ่งอวดกึ่งปรึกษาทุกคนถึงแผนที่บางอย่างที่เขาได้มากจากพวก Templar ซึ่งเมื่อ Teach เห็นแล้วก็รู้ทันทีว่างานนี้ Edward ได้ของดีมาแล้ว เขาจึงอยากจะช่วยให้คำปรึกษาเบื้องต้นในการเอาตัวรอดในการเดินเรือให้ด้วย และหลังจากได้ลูกเรือมาครบตามจำนวนแล้ว Edward ก็จะอยู่ในฐานะกัปตันของเรือ jackdaw เต็มตัวแล้วเช่นกัน ซึ่งก็จะทำให้เขาสามารถเข้าไปซื้อของแต่งเรือและอัพเกรดที่ร้าน Harbour Master ได้แล้ว
********************************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ในตอนช่วยพวกโจรสลัดต้องปลดอาวุธทหารก่อนฆ่า 3 คน
* จุดสุดท้ายที่ไปช่วยพวกโจรสลัดที่โดนแขวนคอต้องยิงที่เชือกแขวนคอก่อนด้วย
********************************************************************
** Pirate History **
กัปตัน Edward “Blackbeard” Teach หรือ โจรสลัดเคราดำในตำนานภายใต้ภาพลักษณ์ของความเป็นเผ็ดจการและเหี้ยมโหด กับเรือ Queen Anne’s Revenge ของมัน มีชื่อเสียงในระดับสูงในช่วงต้นของศตวรรษที่ 18 ก่อนจะโดนฆ่าตายด้วยฝีมือของมือปราบแห่งราชนาวี Robert Maynard แต่ตามประวัติศาสตร์จริงๆ ว่ากันว่า “Blackbeard” ไม่ได้มีนิสัยเหี้ยมโหดดังตำนานว่าไว้ เขาเป็นกัปตันที่ใช้ความเสมอกับลูกเรือในแบบพี่น้อง และ ไม่เคยทำร้ายคนที่เขาปล้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว
Memory 03 – Pirate and Plunder
เดินทางไปยังจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ Edward จะเข้าไปพบกับกัปตัน Teach และ Benjamin ที่ท่าเรือพวกเขาจะลงเรือไปด้วยเพื่อสอนบทเรียนแรกแห่งการเป็นโจรสลัด “โจรสลัดกับการปล้นสดมภ์”
- เมื่อออกออกเรือไปแล้ว กด RB เพื่อใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อดูรายละเอียดของเรือ ทั้งชนิด ระดับเลเวลของความแข็งแกร่ง ชนิดและจำนวนของสินค้าที่เรือบรรทุกมา
- เริ่มเปิดฉากสู้รบด้วยการกด LB ยิงอาวุธเสริม Mortor จากระยะไกลแล้วโจมตีตนจนเรือตกอยู่ในสภาพใกล้จม (Incapacitated Ship) แล่นเรือเข้าไปเทียบจนมีวงกลมกับคำว่า On Board ขึ้นมาแล้วกด B ค้างกัปตันจะสั่งลูกน้องให้เปิดฉากโจมตีเข้าไปบนเรือของศัตรูทันที (Ship Boarding) ซึ่งลูกเรือตามจำนวนที่มีจะบุกขึ้นเรือศัตรูทันที ส่วนกัปตนก็สามารถใช้ปืนใหญ่ข้างเรือ Boarding Cannons ยิงเสริมหรือจะลุยเข้าไปจัดการศัตรูบนเรือด้วยก็ได้ ซึ่งเมื่อจัดการศัตรูบนเรือจนครบ 10 คนแล้วก็จะสามารถยึดเรือเอาไว้ได้ และสิ่งที่จะได้หลังการต่อสู้ก็คือ
- ได้สินค้าต่างๆของเรือศัตรูมาทั้งหมด
- สามารถเลือกซ่อมแซมเรือ , ลดระดับค่าหัวลง หรือ เพิ่มความเชื่อใจให้ลูกเรือได้ด้วย
เมื่อได้สินค้ามาจำนวนนึงแล้วก็ต้องไปหาที่ขายกัน โดยจุดในการขายของที่ได้จากการปล้นที่ใกล้ที่สุดก็คือ เกาะชาวประมง Salt Key Bark เดินเรือตามจุดเขียวไปที่นั่นได้เลย
*******************************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้ปืนข้างลำเรือ (Swivel Cannons) ยิงทหารบนเรือศัตรู 3 คน
* ปล้นเอาถังเหล้า RUM มาให้ครบ 20 ถัง
*******************************************************************
Memory 04 – Raise the Black Flag
หลังจากจบบทเรียนแรกไปแล้ว ออกเดินเรือต่อเพื่อมุ่งหน้าไปที่เขียวจุดหมายคือ เกาะชาวประมง Salt Key Bark ที่นี่นอกจากจะมีร้านอัพเกรดเรือ Harbour Master แล้วยังมีคนรับซื้อเหล็ก (Metal) ในราคาดีอยู่ด้วย บทเรียนที่ 2 ที่ต้องเรียนรู้จากกัปตัน Teach และ Benjamin ก็คือการปล้นเรือศัตรูตามจุดหมายของสินค้าที่เราต้องการ
- เริ่มออกเรือเดินทางกด RB ส่องดูรายละเอียดของสินค้าในเรือโดยเลือกปล้นเฉพาะเรือที่มีเหล็ก (Metal) ในรายชื่อสินค้า ปล้นเหล็ก (Metal) มาจนครบ 70 อัน แล้วเอาไปขายให้กับพ่อค้าที่ยืนอยู่ด้านในของ เกาะชาวประมง Salt Key Bark เมื่อได้เงินมาแล้วก็เอามาอัพเกรดที่ร้าน Harbour Master เพื่ออัพเกรดปืนใหญ่ Broadside Cannons ขึ้นมาใหม่แล้วเข้าไปคุยกับกัปตัน Teach ที่ท่าเรือ หลังจากให้ความรู้เบื้องต้นที่คุณและ Edward ต้องรู้ในการเดินเรือไปแล้ว ที่เหลือก็แค่ต้องพึ่งโชคและฝีมือของกัปตันเรือโจรสลัดหน้าใหม่อย่าง Edward สุดท้าย กัปตัน Teach เงยหน้าไปเห็นธรงสีดำของเรือ Jackdaw จึงตั้งฉายาให้กับกลุ่มของ Edward ต้อนรับการเดินทางครั้งใหม่ว่า “Black Flag “
***********************************************
** Optional Objective 100 % **
* จัดการจมเรือ Hunter Ship (ใบเรือสีแดง)
* ปล้นเอาน้ำตาล (Sugar) มาให้ครบ 30 ถัง
************************************************
Memory 05 – Sugarcane and it’s Yields
เดินเรือไปที่เป้าหมายต่อไปที่เกาะ Andreas Island ต่อ
(ระหว่างทางคุณอาจจะพบจุดล่าปลาวาฬโดยสังเกตุพื้นน้ำที่มีนกบินมาเป็นกลุ่มเหนือจุดนั้น ซึ่ง จะสามารถลงเรือเล็กแล้วเอาฉมวกไปล่าปลาได้ ซึ่งปลาที่จะได้เจอก็จะแรนด้อมไปต่างๆนานาทั้งปลาวาฬหรือปลาฉลาม ซึ่งนำไปขายได้ราคาดีมากด้วย)
ที่แค้มป์โจรสลัดบนเกาะ Andreas Island ที่นี่ไม่มีอะไรมากไปกว่าพื้นที่บกกลางทะเลที้เหล่าโจรสลัดจะลงมานั่งดื่มสุราพูดคุยแลกเปลี่ยนข่าวสารกัน เข้าไปคุยกับกัปตัน Kidd ที่กองไฟเธอจะให้ข้อมูลของ Beckford หัวหน้าทหารเจ้าของไร่อ้อยที่ต้องตาต้องใจใจการปล้นมากๆ เดินตาม Kidd ไปเขาจะชี้ตำแหน่งของ Beckford ให้
- เข้าไปที่จุดหมายที่จุดเขียวแล้วใช้ Eagle Vision มองหา Beckford ให้พบแล้วลอบตามมันไปจนถึงเรือของมัน จากนั้นรีบไปขึ้นเรือ Jackdaw แล้วลอบตามเรือของมันไป ผ่านเข้าพื้นที่ของศัตรู (Restricted Area) พยายามหลบเรือศัตรูและอย่าให้เรือของ Beckford รู้ตัวด้วย จนพ้นอณาเขตของศัตรู ก็จะเห็นเรือของ Beckford จอดที่เกาะ Cat Island
- รีบลงเรือแล้วตาม Beckford ไปต่อตามไร่อ้อยของมัน จนถึงโกดังเก็บน้ำตาลมันจะหากุญแจไม่เจอ จากนั้นใช้ Eagle Vision มองหาเป้าหมายใหม่คือ หัวหน้าทหารที่มีกุญแจโกดัง ลอบจัดการขโมยเอากุญแจจากมันมาด้วยวิธีไหนก็แล้วแต่ทั้ง ล้วงกระเป๋าหรืออัดให้สลบแล้วเก็บมา แล้วเอามาไขเข้าโกดังสินค้าโจรสลัดธงดำก็จะขโมยน้ำตาลออกมาจนเกลี้ยงโกดัง
**********************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ในช่วงที่แอบขับเรือตามห้ามเกิดการต่อสู้
* ในช่วงที่แอบตาม Beckford ที่ไร่อ้อยต้องทำลายจุดระฆังเตือนภัย 2 จุด
***********************************************************
Memory 06 – Proper Defenses
เดินเรือต่อมาตามเป้าหมายใหม่ที่เกาะ Salt Lagoon พบกับกัปตัน Teach และ กัปตัน Kidd โดย กัปตัน Teach จะพาไปออกล่าเรือรบที่แข็งแกร่งที่สุดของสเปน
- จากนั้นออกเรือไปพร้อมกับ กัปตัน Teach ไปที่จุดหมายจบพบเรือรบขนาดใหญ่ที่แข็งแกร่งที่สุดของสเปน เรือ El Dorado อย่าได้คิดเข้าไปแหย่มกับมันเด็ดขาดเพราะยังไม่ทันที่กระสุนปืนใหญ่ของเราจะออกจากลำกล้องเรือของคุณก็จะจมลงก่อนหน้าไปแล้ว ฉะนั้นต้องพยายามหลบมันเอาไว้แล้วลอบตามมันไปเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านเขตของศัตรูก็ต้องระวังเรืออื่นๆของศัตรูด้วย และในช่วงที่มันยิงสู้กับศัตรูของมัน ก็ต้องคอยหลบ Mortor ที่มันยิงมาด้วย หลังจากที่ตามมันจนพ้นเขตของศัตรูแล้ว จะพบกองเรือลูกสมุนของมันเข้ามาขัดขวางมากมายแต่ไม่มีอัไรน่าห่วงเพราะเป็นเรือระดับต่ำทั้งหมด หลังจากจัดการมันจนหมดแล้วเรือ El Dorado ก็ฉวยโอกาสหนีหายไปได้ แต่โชคดีที่ กัปตัน Teach ใช้กล้องส่องดูทิศทางที่มันไปจอดเอาไว้ได้จนหมดแถมเห็นตัวกัปตันของเรือ El Dorado ด้วยซึ่งก็คือ Julen คู่อริเก่าของ Edwardนั่นเอง
**************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้ Broadside Cannon ทำลายเรือศัตรู 2 ลำ
* ใช้ Heavy Shot ทำลายเรือศัตรู 2 ลำ
***************************************************
Memory 07 – A single Madman
หลังจากเดินเรือติดตามเรือ El Dorado มาจนถึงเกาะ Great Inagua ได้สำเร็จก็ลงจากเรือแล้วเข้าไปในเกาะไล่ล่ากัปตันJulen ต่อได้เลย
- ปีนหน้าผาที่หน้าเกาะขึ้นมาด้านบนจะเข้าสู่เขตป่าขนาดใหญ่ใจกลางของเกาะ พยายามลอบจัดการทหารในป่าจนทะลุผ่านจนมาออกที่ท่าเรืออีกด้านของเกาะได้ ลอบหลบทหารศัตรูในค่ายทหารมาที่เรือ El Dorado ที่จอดอยู่ที่ท่าเรือเมื่อปีนขึ้นไปใช้ Eagle Vision ก็จะพบกัปตัน Julen อยู่บนเรือ จากนั้นก็หาทางลอบฆ่ามันตามแบบของคุณได้เลย หลังจากสังหาร Julen ลงได้ก่อนตายมันจะบอกว่า Edward คิดผิดแล้วที่เป็นศัตรูกับ Templar
เพราะพลังอำนาจของสิ่งที่พวกมันกำลังค้นพบนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะหยุดยั้งได้
******************************************
** Optional Objective 100 % **
* ระหว่างลอบเข้าป่าห้ามมีการต่อสู้เด็ดขาด
* ลอบฆ่า กัปตัน Julen ด้วยการกระโดดลงมาจากที่สูง
*******************************************
**************************************************************************
Present Day Mission 2 - A Small Favour
กล่าวถึงช่วงเวลาปัจจุบันที่บริษัท Abstergo Industries John ถูกนำออกจากเครื่องท่องความทรงจำ Animus Omegaโดย Melanie อีกครั้งเธอจะบอกให้ John ขึ้นไปพบ CEO ของบริษัทอีกครั้ง เดินขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้น 23 ออฟฟิศของ CEOเข้าไปคุยกับ Evan ที่ห้องทำงาน เขาจะค่อนข้างแปลกใจที่ John ผ่านการทดสอบในระดับ 2 มาได้ด้วยแถมยังสามารถจูนเข้ากับความทรงจำของ Edward ได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย เลยอยากให้ให้ลงลึกไปในรายละเอียดมากกว่าเดิมอีก ก่อนที่มันจะตัดบทแล้วคุยโทรศัพท์เรื่องงานต่อหน้าตานเฉย จากนั้นลงลิฟต์กลับมาที่ชั้นควบคุม Project 17 LT จะติดต่อมาให้John เข้าไปยัง Security L.V1 เพื่อทดสอบการถอดรหัสของ Core เก็บข้อมูลของเครื่อง Animus เข้าไป Log Onเข้าไป Hack ระบบโดยการเลื่อนจุดสีขาวไปตามเส้นจนถึงเส้นวงกลมสีเขียวแล้วเลือนจุดขาวไปตามจุดเส้นเขียวให้มันเป็นวงกลมก็จะสามารถเปิดดูข้อมูลได้ โดยข้อมูลที่ได้จาก
Animus ทั้ง 3 เครื่องคือ
- Great Mind in History Commission 2
- Subject – Memo
และสุดท้าย John ก็ได้พบบันทึก Post – Mortem Report: Subject 17 ซึ่งเป็นการบรรทึกชะตากรรมของผู้ทดสอบSubject 17 คนก่อนหน้านี้ Desmond Miles นั่นเอง บันทึกแสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ของ Abstergo เข้าตรวจสอบร่างกายของ Desmond ในสภาพที่ร่างกายหลุดนิ่งหลังจากสัมผัสพลังแห่ง “ Divide “ เข้าไป กาลนั้นเขาช่วยโลกเอาไว้ได้สำเร็จ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงวีรกรรมที่ Desmond ทำลงไปวันนั้น แต่สภาพร่างกายที่ไม่ตอบสนองต่อทุกสิ่งรอบตัวของDesmond ไม่ว่าจะมองในมุมมองเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติหรืออะไรก็ตาม แต่ในทางประเมินของทางเจ้าหน้าที่แพทย์ของAbstergo Desmond Miles นั้นเสียชีวิตไปแล้ว แต่สภาพทางสังคมที่บริษัทต้องปิดทุกอย่างเป็นความลับ ชายที่ขื่อDesmond Miles นั้นปัจจุบัน หายสาปสูญ
จากนั้นลงลิฟต์ลงมายังชั้น Lobby จะพบกับ Shaun และ Rebecca ที่ถูกลดขั้นจากนักวิจัยมาเป็นแค่คนขายกาแฟ หรือ มีบางอย่างที่ถูกปิดเป็นความลับมากว่านั้น ? แน่นอนว่า John ไม่ได้สนใจจะรับรู้ จากนั้นเดินขึ้นลิฟต์กลับไปยัง ชั้นควบคุมProject 17 แล้ว Log in เข้าสู่ Animus เพื่อท่องความทรงจำอีกครั้ง ….
******************************************************************************
ในช่วงชีวิตที่ Edward ที่ยังคงไล่ตามความฝันจนลืมที่จะสนใจความรู้สึกของ Caroline วันแล้ววันเล่าที่เธอต้องทนเห็นEdward เมามายในแต่ละวันไม่คิดจะทำงานเหมือนคนปกติที่เขาทำกัน Caroline เองก็โดนกดดันจากพ่อให้เลิกยุ่งกับผู้ชายที่ไม่มีอนาคตอย่าง Edward มาตลอด จนถึงวันนี้ที่เธอไม่มีข้ออ้างใดๆจะแก้ตัวให้แฟนเธอกับพ่ออีกต่อไปแล้วCaroline จึงตัดสินใจทิ้ง Edward แล้วกลับไปอยู่ที่บ้านของเธอแล้วทิ้ง Edward ไว้กับความความฝันลมแล้งๆของเขาต่อไป
จนในช่วงปลายปี 1712 Edward ตัดสินใจลงเรือและไปยัง Jamaica ด้วยเรือส่วนตัว กับ Benjamin Hornigold เขาใช้ชีวิตในแบบกลาสีเรืออยู่ถึง 6 เดือน จนกระทั่งประวัติศาสตร์ผลักไสให้ Edward และ พรรคพวกต้องเข้าสู่ความยุ่งเหยิงในที่สุด ….
โชคดีที่กัปตัน Kidd ผลัก Edward ที่กำลังนอนอยู่บนต้นไม้จนตกลงมา แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขาได้ตื่นจากความฝัน และความผิดพลาดในชีวิตรักของเขาเสียที ……
SEQUENCE 04
Memory 01 – This old Cave
เกาะ Great Inaqua มีนาคม 1715 ….
- ในช่วงเวลาวันว่างๆที่พอจะมี กัปตัน Kidd ได้ถือโอกาศสอนทริคในการใชชีวิตให้กับ Edward เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย วิ่งตาม กัปตัน Kidd เข้าไปในป่าจนถึงซากโบราณสถานของพวก Mayan สำรวจดูจะพบเสาโบราณ “Mayan Stele” สิ่งที่ต้องทำคือปีนขึ้นไปด้านบนสุดแล้วใช้ Eagle Vision มองลงมาที่พื้นจะเห็นเส้นสีขาวขึ้นมา ปรับหมุนมันให้ตรงกับซากเสาที่เหลือจุดซ่อนสมบัติก็จะเผยออกมา เมื่อขุดออกมาได้ กัปตัน Kidd จะบอกว่ามันมีค่าพอที่จะทำเงินให้ได้และเปิดแผนที่ให้ดูว่า “Mayan Stele” นั้นยังมีอีกหลายจุดตามที่ต่างๆที่ Edward สามารถออกไปหามาเพิ่มเติมได้อีกเยอะ
- วิ่งตามกัปตัน Kidd ไปต่อจนถึงด้านในของคฤหาสถ์ของ Julen เดิมที่ตอนนี้กลายเป็นที่เก็บสมบัติของ Edward แล้ว กัปตัน Kidd จะให้ดูกรงด้านในที่มีชุดเกราะของ Templar อยู่ ซึ่งต้องอาศัย Templar Key 5 ดอกในการเปิดเข้าไปเอา ซึ่งดอกแรกนั้นได้มาจากที่ฆ่า Julen ได้ จัดการไขไปก่อน 1 ดอก ส่วนที่เหลืออีก 4 จุด กัปตัน Kidd ก็จะเปิดแผนที่ของจุด “ Templar Hunt “ ตามที่ต่างๆให้ดู เพื่อให้ Edward ไปตามเก็บมาให้หมดถ้าต้องการ Templar Armor ที่อยู่ด้านในล่ะก็
[ถ้าพบเจอจุดเหตุการ์ณ “ Templar Hunt “ ตามที่ต่างๆและเมื่อเคลียร์จนได้Templar Key มาแล้วก็อย่าลืมแวะเอากุญแจที่ได้มาไขทีนี่ด้วย ]
- จากนั้น กัปตัน Kidd จะออกเดินเรือล่วงหน้าไปก่อนโดยจะนัดให้ Edward ไปเจอเธอบนยอดเนินผาที่ซ้ายฝั่งของMexico ทางตะวันออกของแผนที่ จากนั้นถ้าไม่มีอะไรจะทำที่นี่แล้วก็ออกเรือเดินทางได้เลย เมื่อขึ้นเรือแล้ว Abi ต้นเรือจะบอกว่าเขาได้ทำห้องกัปตันให้ใหม่แล้ว เมื่อเข้าไปในห้องกัปตันในเรือก็จะพบว่าสามารถซื้อกระสุน,ชิ้นส่วนเรือ และขายสินค้าที่ปล้นมาได้จากบนเรือได้แล้ว
เดินทางไปยังจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ด้านฝั่งซ้ายสุด ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลมากแต่ถ้าขี้เกียจเดินเรือก็สามารถใช้การเดินทางผ่านจุด Fast Travel ไปตามเกาะต่างๆที่เคยมาได้ (กด X ที่เกาะที่เคยไปมาแล้วจะมีคำว่า Fast Travel ก็จะสามารถเดินทางไปที่นั่นได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล แต่อดได้ผจญภัยในทะเลน๊ะ) ซึ่งระหว่างเส้นทางที่จะไปยังชายฝั่งของ Mexico จะต้องผ่านเกาะ Cayman Sound ซึ่งจะมีจุด Templar Hunt ให้ทำด้วย
*****************************************************************************
Templar Hunt 01
Mission 1 ที่เกาะ Cayman Sound จะพบกับนักฆ่าจากเผ่า Mayan โบราณ Opia Apito Edward จะเข้าไปคุยเพื่อถามถึง Templar Key จากเธอ แต่ Opia จะให้ทดสอบกับเธอก่อนโดยการแข่งการล่าสัตว์ที่อยู่ในเกาะนี้ว่าใครจะล่าได้จำนวนมากที่สุด จากนั้นจะมีจุดของสัตว์ขึ้นมา รีบไปฆ่าให้ได้มากที่สุดก่อนที่ Opia จะทำคะแนนแซงหน้า แต่จุดสำคัญอยู่ที่ต้องหาร เสือ Jaguar เผือกให้เจอแล้วฆ่ามันซะ Opia ก็จะยอมรับในความสามารถของ Edward แต่ก็เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
*****************************************************************************
Memory 02 – Nothing is True
เมื่อมาถึงชายฝั่ง Mexico ด้านฝั่งตะวันตกของแผนที่ตามคำเชิญของ กัปตัน Kidd ปีนขึ้นมาบนเขาที่ทางเข้าป่าจะพบพวกนักฆ่าเชื้อสาย Mayan เฝ้าอยู่ที่นี่มากมาย
- โดยจะต้องลอบเข้าไปอย่าให้พวกมันเห็นและห้ามาฆ่าพวกนักฆ่าเด็กขาด ทำได้ก็แค่ล็อคคอให้สลบเท่านั้น (ปลดอาวุธเป็นมือเปล่าก่อนที่จะกด X จากด้านหลัง) พยายามลอบขึ้นไปจนถึงเนินเขาด้านบนก็จะพบ กัปตัน Kidd ยืนอยู่หน้าทางเข้าวิหารโบราณอย่างไม่ได้หลบซ่อน Edward จะได้พบกับ Ah Tabai หัวหน้ากลุ่มนักฆ่าชนเผ่าที่เขามาคุยด้วย เขาค่อนข้างไม่พอใจและแปลกใจที่ Edward เคยอยู่ข้างเดียวกับพวกสเปนที่เป็นศัตรูกับพวกเขาแต่ก็ยังพยายามจะช่วย The Sage จนโดนจับฐานทรยศ กัปตัน Kidd รีบพูดแก้ตัวให้กับ Edward ว่าทั้งหมดที่เขาทำไปนั้นเพราะไม่รู้ความจริง กัปตันKidd จึงขออณุญาติพา Edward เข้าไปในโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ Tilum เพื่อให้เห็นความจริงเสียที
***************************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ลอบจัดการพวกนักฆ่าโดยการทำให้สลบ 3 คน
* ระหว่างทางที่ลอบเข้ามาต้องเก็บกล่องไอเทมให้ครบ 4 กล่อง
*****************************************************************
Memory 03 – The Sage’s Buried Secret
- วิ่งตามกัปตัน Kidd เข้าไปในโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ Tilum Temple เข้าไปตามทางจนถึงจุดที่สะพานขาด โดดเกาะแท่นหินด้านบนซ้ายพร้อมๆกับ กัปตัน Kidd ที่โดดไปบนก้อนทางขวา จะทำให้ประตูเปิดออก จนถึงบ่อน้ำโดดลงไปดำน้ำลงไปตามทางจนมาขึ้นอีกด้านของถ้ำ เข้าไปต่อจนถึงหน้าประตูที่มีใบหน้ารูปคน ที่นี่ต้องแก้ปริศนาเพื่อเปิดประตูด้วย โดยต้องเคลื่อนย้ายแท่นหินสีสามก้อน แดง , ฟ้า และ เขียว ให้ลงไปวางบนแทนหมุนวงกลมที่พื้นให้ตรงล็อกสีเดียวกัน ประตูหน้าคนก็จะเปิดเรื่อยๆจนเห็นเป็นใบหน้าที่เหมือนกับ The Sage แต่ที่นี่นั้นถูกสร้างมาแล้วถึง 200 ปี ที่นี่ Edward ก็พบผลึกใสอีกก้อนที่เหมือนกับของที่เขามอบให้พวก Torres ไปเพียงแค่ต้องการเงินรางวัล แล้ว กัปตัน Kidd จะพาEdward ผ่านประตูเข้าไปในโบราณสถานส่วนในต่อ
Memory 04 – Overrun and outnumbered
ที่โบราณสถาน Tilum ส่วนใน Ah Tabai จะชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ Edward ทำลงไปซึ่งทำให้พวก Templar นำทหารสเปนโดยคำสั่งของ Torres บุกเข้ามาหาความลับในนี้มากมาย พวก Templar กำลังค้นหาสถานที่ลับแห่งหนึ่งซึ่งมีข่าวลือว่า สถานที่นี้สามารถทำให้พวกเขาได้เปรียบศัตรูทั้งมวล ซึ่งรวมไปถึงที่พวกมันต้องการจะครอบงำและปกครองมนุษย์ไปด้วย เหล่าAssassin ที่รู้ความจริงต่างก็ออกมาต่อต้าน และต่อต้านกันมาตั้งแต่นานมาแล้ว ซึ่งทั้งหมดต้องเป็นความลับผิดชอบของEdward ซึ่งถ้าต้องการที่จะแก้ไจทุกอย่างที่ทำไปก็ควรที่จะจัดการพวกมันให้หมดเพื่อช่วยพวกนักฆ่าคนของเขาที่จับไปเพื่อเป็นการพิสูจน์ ก่อนที่ กัปตัน Kidd จะยุส่งด้วยการให้ ที่เป่าลูกดอก อาวุธเสริมอันใหม่กับ Edward มาด้วย
** Blowpipe ** ที่เป่าลูกดอกที่มีลูกดอกหลายชนิดซึ่งช่วงแรกจะมีแค่
ลูกดอกยาสลบ (Sleep Darts) ที่สามารถทำให้ศัตรูสลบแต่ต้องรีบไปกระทืบซ้ำก่อนมันจะตื่นด้วย
ลูกดอกบ้าคลั่ง (Berserk Darts) ที่จะทำให้ศัตรูบ้าคลั่งโจมตีกันเองและหลังจากยาหมดฤทธิ์มันก็จะตายไปเอง
- จากนั้นก็ใช้ ที่เป่าลูกดอก ในการลอบจัดการทหารศัตรูเพื่อช่วยพวกนักฆ่าชนเผ่าที่ถูกจับเอาไว้ตามจุดต่างให้ครบ 14 คน แล้ว Ah Tabai จะเข้ามาขอบคุณและชื่นชมในฝีมือของ Edward และถือว่าทุกอย่างที่ Edward เคยทำพลาดไปถือว่าหายกันไป แต่ถ้าอยากจะเข้าร่วมในฐานะนักฆ่าคงต้องเปลี่ยนลุคใหม่ให้เหมาะกว่านี้ ซึ่งก็ยังไม่เข้าใจว่าชุดโจรสลัดมันไม่ดียังไง
******************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้ ลูกดอกยาสลบ จัดการทหารศัตรูให้ได้ 8 คน
* ใช้ ลูกดอกบ้าคลั่ง จัดการทหารศัตรูให้ได้ 2 คน
*******************************************************
จากนั้น กัปตัน Kidd ก็จะให้แผนที่ของจุด Assassin Contract ให้รับงานฆ่าเป้าหมายตามจุดต่างๆเพิ่มให้มาอีก ซึ่งต้องการเงินเมื่อไหร์ก็สามารถไปรับงานฆ่าเป้าหมายตามจุด Assassin Contract ต่างๆในเมืองได้เลย
ในขณะที่ Edward ยังอยู่ที่โบราณสถาน Mayan โบราณ Tulum ซึ่งก่อนจะไปทำภาระกิจหลักต่อไป ที่นี่ยังมีอะไรที่ต้องค้นหาอยู่ไม่น้อย ซึ่งจะมีเสือ Jaguar ให้ล่าในป่าด้วย และบางอย่างที่ Kidd กำลังจะสอน Edward ต่อจากนี้ เมื่อเข้าไปคุยกับ Kidd เธอจะบอกว่าเธอเป็นนักฆ่าในสังกัดนี้มาเกือบปีแล้วและเธอก็มีความลับดีๆจะให้ดู แล้ว Kidd จะพาเข้าไปในซากวิหารโบราณด้านในเพื่อแนะนำเกี่ยวกับเสาหินโบราณ Mayan Stela ที่อยู่ที่นี่ด้วย
** เสาหินโบราณ Mayan Stela **
- เมื่อพบเสาหิน Mayan Stela ตามที่ต่างๆแล้ว ปีนขึ้นไปบนเสาแล้วกด B เพื่อใช้ Eagle Vision ก็จะเห็นเส้นสีขาวขึ้นมา โดยต้องปรับเสาสีขาวนั้นให้ตรงกับซากเสาหินก็จะทำให้มันเผยตำแหน่งของ Mayan Stela ออกมา
- เมื่อขุดเก็บมาได้ ในวิหาร Mayan โบราณที่ Kidd จะพาเข้าไปดูจะมีประตูหินที่มีชุด Mayan Outfit อยู่ด้านใน ซึ่งถ้าอยากได้ต้องไปหา Mayan Stela ที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆมาให้ครบทั้งหมด ก็จะสามารถเปิดประตูหินเข้าไปเอา ชุด Mayan Outfit มาใช้ได้
- จากนั้นเมื่อทำทุกอย่างจนครบถ้วนแล้วก็ออกเดินทางกลับไปยัง Nassau ที่จุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองต่อได้เลย
SEQUENCE 05
เดือน มกราคม ปี 1717 ที่ Nassau Bahamas …..
Edward เข้าไปที่บาร์ของเมืองจะพบกับกัปตัน Charles Vane และ กัปตัน Calico jack Rackham ที่ออกอาการดูถูกดูแคลนทันทีเมื่อเห็น Edward อยู่ในฐานะกัปตันเรือโจรสลัดแต่ Black beard จะเข้ามาห้ามทัพเทันทำให้ทุกคนกลับหันไปกินเหล้าเหมือนเดิม ไม่มีทางเลือกที่ Edward ต้องทำอะไรบางอย่างที่ทำให้เขามีชื่อเสียงขึ้นมาบ้าง แล้วก็คงไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่าการไปเอาคืนกับศัตรูดั่งเดิมอย่างผู้ว่าการรัฐ Torres อีกแล้ว ..แต่ก่อนออกเดินทางที่ Nassau จะมีจุดEvent ดีๆที่เพิ่มขึ้นมาให้ทำอยู่ไม่น้อย ทั้งจุดปล้นโกดังสินค้า และจุด Templar Hunt 04ด้วย
**************************************************************************
Templar Hunt 04
Mission 01 - Oh Brother
เข้าไปที่จุด Templar Hunt คุยกับ Vance Travers ซึ่ง Edward จะบอกว่ามาเพื่อต้องการ Templar Key แต่ Vance จะให้ช่วยงานของเขาก่อนงานที่จะต้องลอบฆ่าพี่น้องของเขาเอง จากนั้นเข้าไปที่จุดวงกลมเขียวในเมืองใช้ Eagle Visionมองหาจนพบเป้าหมาย Upton Travers พยายามลอบเข้าไปใกล้ๆแล้วใช้ลูกดอกยาสลบยิงมันก่อนแล้วค่อยเข้าไปลอบฆ่า แต่ Upton จะบอกว่าเขาไม่มี Templar Key แต่พอรู้ว่ากุญแจที่ว่าอยู่ใครด้วย ซึ่งตอนนี้ Edward กำลังจะถูก Vanceหลอกใช้ให้มาฆ่าเขาต่างหาก และ Upton พร้อมที่จะพิสูจน์ให้ดูถ้า Edward ยอมที่จะตามเขามา
Mission 02 - The Other Brother
เข้าไปที่จุด Templar Hunt อันที่ 2 เข้าไปพบกับ Upton แล้วตามเขาไปจนถึงจุดหมายแล้วเข้าไปซุ่มในพงหญ้ารอให้Vance เดินเข้ามาคุย จากนั้นลอบตามทั้งคู่ไป โดยระหว่างทางจะพบว่ามีคนเข้ามาลอบฆ่า Vance อยู่ตลอดซึ่งก็ไม่รู้ว่ามันตามมาฆ่าใครระหว่าง 2 คนนี้กันแน่ (รีบไปฆ่านักฆ่าที่จุดแดงที่เข้ามาก่อนมันจะลงมือ) จนถึงจุดที่ทั้งคู่เดินออกจากกัน ลอบตาม Upton ไปจนพบนักฆ่าสาว Jing Lang เริ่มเข้ามาจะฆ่าเขา รีบเข้าไปหยุดนักฆ่านั่นซะแต่มันหนีไปได้ ทำให้Upton รู้ว่าเขากำลังถูกปองร้ายจริงๆ
Mission 03 - Upton’s Sorrow
เข้าไปที่จุด Templar Hunt อันที่ 3 เข้าไปหา Upton ที่กำลังเมาอยู่ที่บาร์และกำลังเศร้าที่พี่ชายของเขาสั่งคนมาฆ่าเขา เขาเสียใจจนไม่อยากจะทำอะไรอีก แต่ Edward ก็ต้องพยายามทำให้เขาปลอกภัยเอาไว้ก่อนไม่ได้เพราะเป็นห่วงแต่แต่แค่ต้องการกุญแจจากมันเท่านั้น Upton ที่เริ่มเมาจนโวยวายที่บาร์จนนักเลงต้องเข้ามารุม ช่วยเขาจัดการพวกนักเลงในบาร์ให้หมดแล้วตามเข้าไปตามทางในเมืองจนเจอทหารกลุ่มนึงจะเข้ามาทำร้าย Edward ก็ต้องเข้าไปจัดการทหารให้หมดเพื่อช่วย Upton อีกครั้ง ทำให้มันเริ่มรู้ดีแล้วว่าถ้าไม่รีบจบเรื่องนี้ เขาต้องตายแน่นอน จึงตกลงจะให้ Edward เข้ามาช่วย
Mission 04 - Queen of Pirate, King of Fools
เข้าไปที่จุด Templar Hunt อันที่ 4 เข้าไปหา Upton เขาจะบอกว่ากุญแจ Templar Key นั้นอยู่ที่ Vance เองมาตลอดจึงชื่อเป้าหมายที่อยู่ของ Vance ให้ จากนั้นเดินทางไปที่วงกลมจุดเขียวในแผนที่ พยายามใช้ Eagle Eye มองหาตัวVance ที่ตั้งแค้มป์อยู่ในบึงให้พบแล้วฆ่ามันซะ จากนั้นนักฆ่าหญิง Jing Lang จะออกมาจัดการฆ่าเธอซะอีกคน Edwardก็จะได้ Templar Key มาครอบครองอีก 1 ดอก
** อย่าลืมเข้าไปใช้กุญแจกับประตูที่เก็บชุด Templar Armor ในคฤหาสถ์ของ Julen (ที่ตอนนี้เป็นที่พักของEdward แล้ว) ที่เกาะ Great Inaqua ด้วย **
******************************************************************************
จากนั้นล่องเรือจาก Nassau ต่อไปยังเป้าหมายใหม่ที่จุด ! สีเหลืองในแผนที่ต่อ
Memory 01 – The Forts
Edward เดินเรือมาจนถึงหน้าป้อมของผู้ว่าการรัฐ Torres จากนั้นก็เริ่มบุกได้เลย ใช้ Mortar ยิงทำลายป้อมปืนหน้าป้อมของมันให้หมดก่อน พร้อมกับจัดการเรือรบของมันที่เฝ้านานน้ำเอาไว้ด้วย ใช้อาวุธหนักอย่าง Mortar ยิงถล่มแบบไม่ต้องกลัวเปลืองเพราะที่ป้อมมันก็ยิงเข้ามาไม่ยั้งเหมือนกัน พยายามบังคับเรือหลบจุดสีแดงบนพื้นน้ำด้วย เมื่อทำลายป้อมปืนจนหมดแล้วก็เอาเรือเข้าไปจอดที่หน้าป้อมได้เลย จากนั้นลุยเข้าไปจัดการทหารให้หมดแล้วเข้าไปด้านในป้อมจะพบกับ ผู้ว่าการรัฐ Torres โดยที่ Edward จะยื่นขอเสนอปนบังคับว่าเขาจะช่วยตามหาตัว The Sage ให้โดย Torres จะต้องยอมออกค่าใช้จ่ายรวมถึงมีค่าจ้างให้ด้วย ไม่งั้น Torres คงไม่ได้ออกจากป้อมนี้แบบเป็นๆแน่นอน
******************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้ Mortar ยิงทำลายปืนหน้าป้อม
* ใช้ การวิ่งเข้าไปฆ่า (RT + X) ในการฆ่าทหารที่ป้อม
******************************************
หลังจากยึดป้อมเอาไว้ได้แล้ว ก็จะได้ป้อมนี้เป็นฐานและทำให้น่านน้ำด้านหน้าทั้งหมดเป็นเขตเสรีอีกด้วย (ยังมีเรือศัตรูแล่นผ่านได้มันจะไม่โจมตีเราก่อน) และที่ป้อมจะมีจุดทำภาระกิจย่อย Naval Contract ด้วย ซึ่งจะเป็นภาระกิจทางเรือนั่นเอง จากนั้นเดินทางไปยังจุดหมายตอไปที่จุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ ซึ่งก็คือเมือง Kingston นั่นเอง …
Memory 02 – Traveling Saleman
เมือง Kingston, Jamaica …ด้วยความไม่ไว้ใจ Torres Edward จึงปรึกษากับ Adewale จะลองลอบตามมันไปเพื่อดูความเคลื่อนไหวของมันดู แต่ขณะนั้นก็กลับพบกัปตัน Kidd กำลังลอบเข้ามาที่นี่ด้วย แต่จุดหมายเธอคือฆ่า Torres ตามคำสั่งของกลุ่มนักฆ่าของเธอ Edward จึงต้องรีบลอบเข้าไปอย่างระวังเพื่อหาทางยับยั้ง Kidd ไม่ให้ฆ่า Torres ด้วยเพราะเขาต้องการให้มันพาตัวไปหา The Sage ก่อน
- ลอบเข้าไปที่พักของ Torres จนพบกับ Torres กำลังคุยกับผู้ว่าการรัฐ Prins ของจาไมก้าถึงเรื่องของ The Sage หลังจากที่ลอบตามฟังมันคุยแล้ว Edward จะรู้ว่าจริง Prins นั้นเก็บตัว The Sage เอาไว้ก่อนที่จะพยายามต่อรองกับ Torresอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Edward คิดเอาไว้แต่แรกก่อนจะตกลงเอาไว้กับ Torres แล้วว่ายังไงมันก็ต้องตลบหลังแน่นอน เมื่อลอบเข้าไปถึงด้านในจะมีทหารมาบอกว่ามีโจรสลัดบุกเข้ามาทำให้ ทั้ง Torres และ Prins รีบหนีไปทันที จัดการทหารที่บุกเข้ามาให้หมด แล้ว Kidd จะฉวยโอกาสวิ่งไล่ตามฆ่า Torres ทันที พยายามวิ่งไล่ตามแท็กเพื่อหยุด Kidd ให้ทัน แล้วEdward จะพยายามบอกกับ Kidd ว่าเขาไม่สนว่า Torres จะเป็นหรือตายแต่หลังจากที่รู้ที่ซ่อนตัวของ The Sage จากมันแล้วก็เชิญ Kidd จัดการกับมันได้เลยตามสบาย
*****************************
** Optional Objective 100 % **
* ลอบฆ่ามือปืนที่อยู่บนหลังคา 4 คน
* ฆ่าทหารที่ออกมารุมด้วยระเบิดควัน
*****************************
หลังจากเสร็จภาระกิจแล้ว ก่อนเดินทางไปยังจุดหมายหลักต่อไปก็อย่าลืมทำ ภารกิจรองที่อยู่ที่เมือง Kingston ด้วย ทั้งจุด Assassin Contract และจุด Templar Hunt 03 ด้วย
*****************************************************************************
Templar Hunt 03
Mission 1 – The Maroon Assassin
เข้าไปคุยกับ Anto เพื่อขอ Templar Key จากเขา ซึ่งแน่นอนเหมือนทุกครั้งที่ Edward ต้องทำบางอย่างแลกเปลี่ยนก่อนโดย Anto จะขอให้ไปช่วยคนของเขาที่ถูกทหารจับไปมาก่อน จากนั้นไปที่จุดเป้าหมายเพื่อลอบฟังทหารที่คุยกันไปจนถึงจุดนึงที่พวกมันเริ่มวิ่งหนี ให้ไล่ตามใครคนใดคนนึงให้ทันแล้วบังคับให้มันบอกข้อมูลเกี่ยวกับที่ซ่อนเชลยออกมา
Mission 2 – Recruiting maroons
เข้าไปที่จุด Templar Hunt ต่อไปคุยกับ Anto ถึงเรื่องที่ซ่อนของคนของเขา แล้วตามไปช่วยคนของ Anto ที่ถูกจับเอาไว้ตามจุดต่างๆที่ขึ้นมาให้หมด
Mission 3 – Under Attack
เข้าไปที่จุด Templar Hunt ต่อไปคุยกับ Anto กับคนของเขาแล้วทหารจะออกมาโจมตี จัดการพวกมันให้หมดโดยระวังอย่าให้ Anto ตาย แล้วเขาก็จะบอกถึงชื่อเป้าหมายที่เก็บ Templar Key เอาไว้ให้
Mission 4 – The Command Ruse
เข้าไปที่จุด Templar Hunt ต่อ คุยกับ Anto เขาจะชี้ตำแหน่งของเป้าหมาย Kenneth Abraham ให้ จากนั้นลอบเข้าไปยังจุดวงกลมสีเขียวแล้วใช้ Eagle Vision สแกนหาตำแหน่งของ Kenneth จนพบแล้วเข้าไปจัดการฆ่ามันซะ แล้วEdward ก็ได้ Templar Key อีกดอกมาครอบครอง
******************************************************************************
จากนั้นเดินทางไปยังจุดหมายตอไปที่จุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ ปีนขึ้นไปบนหลังคาของหอกังหันลมจะพบกับKidd นั่งรออยู่ Edward จะมาช่วยเธอเพื่อจัดการกับผู้ว่าการรัฐ Prins เพื่อช่วย The Sage ออกมา แต่ก่อนที่จะทำภาระกิจEdward อ้ำอึงอยู่นานจนต้องลองถามออกไปหลังจากที่ Edward ได้โดดไปจับตัว Kidd ในวันก่อน ซึ่งทำให้ Edwardรู้สึกว่าร่างกาย Kidd มันแปลก Kidd จึงตัดสินใจบอกออกไปว่า ใช่ เธอเป็นผู้หญิง แต่ก็อย่าริอาจมาแหย่มก็แล้วกัน ….
Memory 03 – Unmanned
- จากนั้นลอบเข้าไปยังส่วนหน้าของที่พักของผู้วาการรัฐ Prins โดยที่สวนด้านหน้าต้องลอบเข้าไปทำลายจุดระฆังเตือนภัยให้หมดทั้ง 3 จุดก่อนแล้วเข้าไปจนถึงหน้าประตูเข้าคฤหาสถ์ Kidd จะแกล้งทำเป็นบาดเจ็บแล้วให้ทหารเปิดประตูออกมาดู แล้วจัดการเชือดพวกมันแล้วเข้าด้านในต่อ
- ลอบเข้าไปภายในคฤหาสถ์ของผู้วาการรัฐ Prins แล้วใช้ Eagle Vision มองหา Prins ให้เจอซึ่งก็จะพบว่ามันยืนนอยู่ในสวนหลังบ้าน ลอบเข้าไปฆ่ามันได้เลย หลังจากที่จัดการ Prins ได้แล้ว The Sage จะออกมาจับตัว Kidd เอาไว้ได้จากบนบ้าน Edward พยายามบอกกับ The Sage ให้ใจเย็นๆเพราะพวกเขากำลังมาช่วย แต่ The Sage จะบอกกลับไปว่า จะมาช่วยทำไมในเมื่อเขาทำงานให้ ผู้วาการรัฐ Prins ทำให้ Kidd รู้ทันทีเลยว่าซวยแล้วเธอจึงฉวยโอกาสดิ้นหลุดแล้วหนีไปก่อน ทางด้าน Edward ทหารมากมายจะเข้ามารุม พยายามหนีทางต้นไม้ทางขวาแล้วหาทางวิ่งหนีออกมาจนถึงด้านนอกบ้านในจุดที่ปลอดภัยให้ได้ แล้วกลับไปหา Kidd ที่รออยู่ที่หอกังกันลม
- Kidd กำลังงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่เธอก็จะเอาเรื่องนี้ไปรายงานกับ Ah Tabai หัวหน้ากลุ่มนักฆ่าของเธอก่อน แต่ Edward ก็อดไม่ได้ว่าต้องถามชื่อจริงของ Kidd ซึ่งเธอก็ยอมบอกให้ว่า “ Mary Read “
*****************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้ลูกดอก Berserk กับทหาร 2 คน
* ใช้ลูกดอก Sleep กับทหารมือปืนบนหลังคา 4 คน
*****************************************
- จากนั้นออกเดินทางกลับไปยัง Nassau ที่จุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองต่อได้เลย
SEQUENCE 06
เดือน มกราคม ปี 1718 ที่ Nassau Bahamas …..
เมื่อ Edward เดินเข้ามาที่บาร์ในเมืองก็พบกับความวุ่นวายของกลุ่มโจรสลัดที่นี่ทั้ง Calico และ Vane ต่างก็พยายามบอกให้ Edward เดินหนีจากความวุ่นวายนี้ก่อนจะสายไป แต่ยังไม่ทันขาดคำ กัปตัน Black beard ก็เข้ามาพร้อมกับอารมณ์ฉุนเฉียวเพราะเรือสินค้าของ Bonnet เพื่อนของเขาถูกพวกทหารโจมตีแถมยังยึด ยา ที่เป็นสินคาในเรือเอาไปเองจนหมดอีก ทำเอา Edward และ กัปตัน Robert พยายามจะหาทางห้ามความโกรธของ Black beard ก่อนที่จะวุ่นวายเพราะทหารที่ว่าเป็นฝ่ายอังกฤษเหมือนกัน ซึ่ง Robert ก็ยังเห็นแก่กษัตริย์ของอังกฤษอยู่ไม่น้อย แต่ดูเหมือน Black beard จะไม่ได้สนใจ กษัตริย์ ที่ไหนมากกว่า ความอสิระที่ไม่ต้องก้มหัวให้ใครที่โจรสลัดควรจะยึดถือเอาไว้ก่อน และงานนี้ Edward ก็คงจะหาทางช่วยด้วยอีกแรง
Memory 01 – Diving for Medicines
- ก่อนอื่นก็ต้องหาหลักฐานที่ซากเรือสินค้าที่จมอยู่ใต้น้ำที่โดนกองทหารโจมตีก่อน ซึ่งงานนี้จำเป็นจะต้องใช้ไอเทมสำคัญในการดำน้ำด้วยคือ Diving Bell ที่ขายอยู่ในร้านแต่งเรือในราคา 5000 R ถ้ายังไม่มีก็ไปหาซื้อมาก่อน จากนั้นขึ้นเรือออกเดินทางต่อไปจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ ซึ่งก็คือจุดดำน้ำ นั่นเอง ก็จะพบเรือ Queen Anne’s Revengeของ Black beard ที่มาพร้อม Bonnet มาจอดรออยู่แล้ว
** จุดดำน้ำ Shipwrecks **
- เมื่อแล่นเรือเข้าไปยังจุดเรือล่ม (Shipwrecks) ถ้ามี Diving Bell อยู่ก็สามารถกด B เริ่มทำการดำน้ำได้เลย การดำน้ำนั้นต้องใช้ Diving Bell ในการหายใจและกลับขึ้นเรือ โดยระหว่างทางจะมีถุงอากาศช่วยหายใจตามทางด้วย ดำน้ำเก็บไอเทมในกล่องมาให้หมดแล้วเข้าไปที่ซากเรือ เปิดเข้าไปด้านในจะพบหีบสินค้า เปิดมันออกแล้วเก็บขวดยาออกมา จากนั้นเรือจะถล่มจนออกทางเดิมไม่ได้จึงต้องดำน้ำทะลุถ้ำออกมาอีกด้าน ทางออกจะเต็มไปด้วยฝูงฉลามซึ่งไม่มีทางจัดการมันได้แบบสัตว์อื่นๆที่ทำได้คือดำน้ำต่ำๆเพื่อหลบตามหญ้าทะเล (เหมือนหลบทหารตามกอหญ้านั่นแหละ) ลอบหลบจนมาถึงDiving Bell แล้วกลับขึ้นเรือได้เลย
- Edward จะเอาขวดยาที่ได้มาให้ Bonnet ตรวจดูซึ่งก็จะพบว่าเป็นยาของเขาแต่มันมีเหลืออยู่ในซากเรือแค่ลังเดียวแปลว่าพวกทหารเอาที่เหลือไปซ่อนเอาไว้แน่นอน Bonnet ที่ดูเหมือนจะถอดใจแต่สำหรับ Black beard กลับไม่ยอมง่ายๆแบบนั้นแถมทำให้เขาหงุดหงิดมากขึ้นจนทุกคนกลัวไปตามๆกัน เขายังยืนยันว่าจะต้องถล่มอีกกี่กองเรือก็จะเอาของกลับคืนมาทั้งหมดให้ได้ ซึ่งงานนี้ Bonnet ก็ไม่กล้าจะขัดขืนแน่นอน
*************************************
** Optional Objective 100 % **
* ดำน้ำเก็บหีบสมบัติให้ได้ 3 หีบ
* หลบฉลามจนถึง Diving Bell โดยไม่โดนทำร้าย
************************************
Memory 02 – Devil’s Advocate
ขึ้นเรือออกเดินทางต่อไปจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่จะพบเรือของกัปตัน Cockram ที่กำลังเสียอยู่กลางทะเล เขารีบบอกถึงข่าวร้ายที่เรือของ Black beard กำลังตกอยู่ในวงล้อมของเรือศัตรูเนื่องจากเขาบ้าระห่ำเข้าไปตามเอาสินค้าด้วยตัวเอง ทำให้ Edward รีบไปช่วยทันที
- ล่องเรือไปที่จุดวงกลมสีเขียวขนาดใหญ่กลางทะเล เรือของ Black beard จะอยู่ที่ไหนซักแห่งในนี้ซึ่ง Edward จะต้องรีบหาให้เจอ ด้านในพื้นที่นั้นเต็มไปด้วยเรือศัตรูมากมาย แต่เรือของ Black beard จะจอดอยู่ที่เกาะ Mariguana Islandทางทิศใต้ของพื้นที่วงกลมสีเขียวนั่นเอง เมื่อเห็นเรือของ Black beard แล้วรีบเข้าไปจอดแล้วลงไปช่วย Black beard สู้กับทหาร จนสามารถจัดการได้จนหมด แต่เรื่องยังไม่จบเมื่อเรือรบขนาดใหญ่ของศัตรูก็เริ่มเข้ามาแล้ว รีบขึ้นไปที่เรือQueen Anne’s Revenge ของ Black beard ที่จอดอยู่ แล้วบังคับมันเข้าไปถล่มเรือรบ Manowar ได้เลย ถึงแม้เรือQueen Anne’s Revenge จะไม่มี Mortar ยิงระยะไกล แต่ปืนใหญ่มากมายที่สามารถยิงได้ถึง 3 ชุดนั้นทรงพลังมากมายนัก หลังจากที่ทำลายเรือ Manowar ลงได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ของ Edward Black beard ก็จะเข้าไปอัดกัปตันเรือก่อนจะขนเอายาที่ทหารเอาไปกลับคืนมาได้อย่างสุดระห่ำ
******************************************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ช่วยคนที่ตกอยู่ในน้ำในพื้นที่วงกลมเขียวให้ได้ 5 คน (เป็นสัญลักษณ์รูปดาวไขว้ในแผนที่)
* ตอนเข้าไปช่วย Black beard จัดการทหารด้วยระเบิดควัน
******************************************************************************
Memory 03 – The Sage of Charles – Towne
ขึ้นเรือออกเดินทางต่อไปจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่จะพบ Black beard ที่พยายามข่มขู่และจับทหารในเรือศัตรูเอาไว้เพื่อจะถามถึงสินค้าที่เหลือทั้งหมดที่พวกมันเอาไป ซึ่ง Edward เห็นว่า Black beard ใจร้อนกลัวจะเข้าไปเสียท่าศัตรูอีกเขาจึงรับอาสาจะไปเอากุญแจมาให้เอง
- จากนั้นขับเรือลอบตามเรือของศัตรูไปแบบเงียบตามบึงที่เต็มไปด้วยจรเข้ จนเรือมันถึงที่จอด กัปตันเรือจะลงเรือเล็กไปต่อ รีบวิ่งตามมันไปแล้วลอบแอบฟังมันไปเรื่อยๆ ภายในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทหารศัตรูและฝูงจรเข้ในบึงซึ่งต้องพยายามอย่าตกน้ำและพยายามลอบฆ่าทหารระหว่างให้เร็วและเนียนที่สุดด้วยโดยต้องไม่ให้เป้าหมายคือเรือเล็กของกัปตันพ้นจากระยะสายตาไป
- เมื่อมันขึ้นฝั่งด้านในแล้วจากนั้นลอบตามมันต่อให้อยู่ระยะแอบฟังเข้าไปจนถึงด้านใน จู่ทหารก็มารายงานว่ามีโจรสลัดบุกเข้ามา ทำให้กัปตันมันวิ่งหนีไปทันทีพร้อมกับทหารมากมายที่รุมเข้ามาจับ Edward ใช้ระเบิดควันแล้วหนีพวกทหารวิ่งตามตัวกัปตันไปแล้วจับตัวมันให้ได้ก่อนที่มันจะหนีเข้าบ้านไป Edward ก็จะได้กุญแจกลับมาให้ Black beard จนได้สินค้าทั้งหมดกลับคืนมาสำเร็จ และจากงานนี้ก็จะทำให้คุณรู้ถึงนิสัยที่สุดโหดเหี่ยมและเอาจริงเอาจังในแบบ Black beard ได้ดีที่สุดจริงๆ
- จากนั้น Black beard จะลา Edward เพื่อไปทำธุระทางเหนือต่อ จนทำให้ Edward ถึงกับตัดพ้อว่าแล้วจะลืมเรื่องที่Nassau ไปเฉยๆเลยหรอ Black beard ก็ตอบได้ว่า เมื่อถึงเวลาแล้วเขาจะกลับมาช่วยแน่นอน และไม่ว่า Black beardจะพูดจริงหรือหลอกก็คงไม่มีใครอยากจะเถียงเขาแน่นอน …
**************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้ลูกดอกยาสลบกับจรเข้ 3 ตัว
* ฆ่าและถลกหลังจรเข้ด้วย
**************************************
**************************************************************************
Present Day Mission 3 – Corporate Pressure
ที่ บริษัท Abstergo Industries หลังจากผ่านการทดสอบขั้นที่ 3 John ถูก Melanie เรียกตัวขึ้นไปหา Dean CEO ของบริษัทอีกครั้ง แต่เมื่อขึ้นลิฟต์ไปจนถึงชั้น CEO แล้ว Dean กลับบอกว่าไม่ได้เรียกให้เข้าพบเพราะเขากำลังยุ่ง “LT “เสียงในเครื่องสื่อสารในหูของ John สั่งให้เขาเข้าไปที่ห้องในโซนความควบคุมระดับ 2 ทันที เมื่อเข้าไปแล้วจะเป็นห้องควบคุมกล้องวงจรปิด ซึ่ง LT จะสอนให้ Hack คลื่นเสียง โดยการปรับคลื่นเสียง 3 อันให้ตรงกับโจทย์ด้านบน [กดเลข 7 – 5 – 2] ก็จะสามารถดักฟังในห้องทำงานของ Dean ได้ จากนั้นออกจากห้องไปที่หน้าต่างด้านหลังรอให้นั่งร้านขึ้นมารับแล้วขึ้นไปจนถึงห้อง CEO ชั้นบน เข้าไป Hcak ข้อมูลในคอมของ Dean ด้วยการบังคับจุดทางซ้ายหลบเส้นสีแดงไปทางขวาให้ได้ ก็จะได้ข้อมูลออกมา จากนั้นรอให้ LT เปิดประตูห้องลงลิฟต์ไปยังชั้น Lobby ต่อ ลงไปคุยกับ Shaun และRebecca ที่ร้านกาแฟ ก่อนที่จะกลับขึ้นลิฟต์ไปชั้นโครงการ Subject 17 เพื่อเข้าเชื่อมต่อกับเครื่อง Animus Omega อีกครั้ง
ถึงตอนนี้ดูเหมือนการกระทำของหนุ่มน้อยที่ชื่อ John จะไม่ใช่ภาระกิจของเด็กช่างฝันเพื่อการบันเทิงในชีวิตอย่างเดียวเสียแล้ว ……
SEQUENCE 7
Memory 01 – We Demand A Parlay
กรกฎาคม ปี 1718 ที่ Nassau ……ในขณะที่ Edward กำลังนักจิบเหล้าและพูดคุยกับ Anny Bonny อย่างมีความสุขในบาร์ จู่ๆก็ได้ยินเสียงปืนและการแตกตื่นของผู้คนที่ท่าเรือ Edward กับ Rackham รีบออกไปดูที่ชายหาดจะพบผู้พันWoods Rogers นำกำลังทหารอังกฤษเข้ามาปิดล้อมเกาะตามคำสั่งกษัตริย์ จอร์จ เพื่อเข้ามาขอจับกุมตัวโจรสลัดอย่างVane และ Rackham เพื่อไปสอบสวน
- จากนั้นลอบตามแอบฟัง Rogers และกลุ่มทหารเข้าไปจนถึงป้อมด้านใน ซ่อนตัวในพงหญ้าเอาไว้จนกว่าพวกทหารจะปิดประตูหน้า แล้วเดินอ้อมไปทางว้ายของกำแพงจะมีทางปีนขึ้นไปบนหอคอยของกำแพงได้ (ซึ่งจะมี 2 จุดที่ปีนได้เลือกเอาได้เลย) เมื่อเข้ามาในป้อมได้แล้ว เป้าหมายคือลอบเข้าไปที่กองกระดาษหน้าห้องสอบสวนที่เป็นอาคารไม้กลางพื้นที่ เพื่อขโมยแผนการรบของพวกศัตรูมา ขณะที่ Rogers จะนำตัว Vane และ Rackham ออกมาหลังสอบสวนเสร็จก่อนจะขู่ว่าอยากจะจับแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ จากนั้นนี้ออกจากพื้นที่ได้เลย
***************************************************
** Optional Objective 100 % **
* จัดการทหารยาม 3 คนด้วยการกระโดดเข้าไปเสียบจากกำแพง
* ทำลายระฆังเตือนภัยในป้อม
**************************************************
Memory 02 – The Gunpowder Plot
หลังจากโดนปล่อยตัวแล้ว กัปตัน Vane และ Rackham พวกมันจะบอกว่าโดนสอบสวนถึงที่อยู่ของชายที่ชื่อ The Sageและของบางอย่างที่พวกมันเรียกว่า “หยอดเลือดของเจ้าหญิง” ซึ่งเป็นข้อมูลใหม่ที่ Black Beard ได้มาว่าเคยบอกไว้ว่าเป็นเจ้าหญิงลูกสาวของ กษัตริย์ จอร์จ ที่ถูกจับตัวไปนั้นไม่เป็นความจริง Edward จะเอาแผนของศัตรูที่ขโมยมาให้ปรึกษาทั้ง 2 คนด้วย ซึ่งหลังจากที่ทุกคนตรวจสอบดูแล้วก็พบว่าแผนของพวกมันคือ ให้องค์มนตรีที่เป็นตัวแทนของกษัตริย์ นำในการบุกของกองทัพเรือที่ปิดล้อมน่าน้ำนี้เอาไว้แล้ว Edward จึงมีแผนที่จะทำเรือระเบิด ในการแล่นพุ่งไปทำลายกองเรือของศัตรูโดยพวกมันไม่รู้ตัว ซึ่ง Vane และ Rackham ก็จะเอาด้วยกับแผนนี้
- จากนั้นจะมีจุดหมายมากมายขึ้นมาในพื้นที่ สิ่งที่ต้องทำก็คือ ลอบไปขโมยดินปืนทุกจุดที่ขึ้นมาในเมืองให้หมดทุกจุด
****************************************
** Optional Objective 100 % **
* จัดการทหารยาม 4 คนในครั้งเดียว
* ใช้ลูกดอกจัดการทหาร 10 คน
****************************************
Memory 03 – Commodore Eighty Six
หลังจากได้ดินปืนมาแล้วกลับไปหา Vane และ Rackham ที่จุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ ขณะที่กำลังเตรียมการจะพบว่า องค์มนตรี Peter มาถึงที่นี่แล้วเพื่อเตรียมแผนการ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดี Vane จึงจะให้ Edward รีบไปเก็บมันโดยด่วน
- จากนั้นเข้าไปที่พื้นที่วงกลมเขียวในแผนที่แล้วใช้ Eagle Vision มองหาจนพบเป้าหมายหัวหน้าทหารลอบตามแอบฟังพวกมันไปตามทางจนถึงท่าเรือก็จะพบ องค์มนตรี Peter อยู่บนเรือ หาทางจัดการลอบไปฆ่ามันแล้วหนีออกจากพื้นที่ได้เลย
****************************************************************
** Optional Objective 100 % **
* จัดการทหารยามจากที่ซ่อนตัวต่างๆ 3 คน
* ลอบฆ่า องค์มนตรี Peter โดยการกระโดดลงมาฆ่าจากด้านบน
*****************************************************************
Memory 04 – The Fireship
เมื่อจัดการองค์มนตรี Peter ได้แล้วเข้าไปที่จุดหมาย ! สีเหลืองในแผนที่เข้าไปหา Vane และ Rackham ที่กำลังเตรียมการขนดินระเบิดขึ้นไปบนเรือ จากนั้นขึ้นเรือแล้วขับเรือตามเรือระเบิดไปจนพบกองเรือของศัตรู เข้าไปจัดการเรือกองหน้าของศัตรูให้หมดเพื่อคุ้มกันเรือระเบิด (ถึงจะมีเรือศัตรูมากมายเข้ามารุมแต่ส่วนใหญ่เป็นเรือเล็กไม่ได้น่ากลัวอะไรนัก) แล้วรอให้เรือระเบิดแล่นเข้าไปจนถึงกองเรือบัญชาการ์ณทุกอย่างก็จะระเบิดเป็นจุล จากนั้นก็ขับเรือหนีออกจากพื้นที่ได้เลยEdward ก็จะหยุดยั้งแผนกวาดล้างของกษัตริย์เอาไว้ได้สำเร็จ
**********************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้ Mortar ทำลายเรือศัตรู 3 ลำ
* ใช้ถังระเบิดหลังเรือ Barrel ทำลายเรือศัตรู
**********************************************
SEQUENCE 8
ตุลาคม ปี 1718 ที่ Great Inagua ……หลังจาก Edward เสร็จศึกในการทำลายกองอังกฤษของกษตริย์ที่คิดริอาจมาลองดีกับโจรสลัดแล้ว Edward หลบมาพักผ่อนอยู่กับ Kidd ถึง 4 เดือนถึงจะนึกได้ว่ากัปตัน Black Beard ที่ออกไปที่ทะเลเหนือนั้นหายหน้าหายตาไปนานแล้วเขาจึงจะต้องออกมาไปหาเสียหน่อย
- ในระหว่างทางของการเดินเรือจะต้องผ่านเกาะ Grand Cayman ซึ่งที่นี่จะมีจุด Mission 2 ของTemplar Hunt 01 ที่ทำค้างเอาไว้เพิ่มเข้ามาด้วย แวะทำเสียก่อนอย่าให้เสีย ….
******************************************************************************
Templar Hunt 01
Mission 2 – Templar Ship
เข้าไปพบ Opia ที่ท่าเรือของเกาะ Grand Cayman แล้วเข้าไปที่จุดหมายสีเขียวใช้ Eagle vision หาตัวเป้าหมาย Alvinให้พบแล้วแอบลอบตามฟังมันคุยจนถึงจุดที่มันแยกตัวไปคนเดียวก็ลอบเข้าล้วงกระเป๋ามันจนได้กุญแจมา
Mission 3 – Right hand Man
เข้าไปพบ Opia ที่ Templar Hunt ต่อไปที่ขึ้นมา ซ่อนตัวแล้วรอให้เธอเคาะประตูบ้านจน Vargas มันเริ่มวิ่งหนีออกจากบ้าน วิ่งตามไปจับมันแต่มันกลับหนีขึ้นเรือไปได้ รีบตามขึ้นเรือขับตามไป ทำลายเรือมันซะแล้วขึ้นไปยึดเรือให้ได้ก็จะจับตัว Vargas มาให้ Opia ได้
Mission 4 – The Trail of Lucia Marquez
เดินทางมาที่เกาะ Pinos lsle เข้าไปพบ Opia ที่ Templar Hunt แล้วลอบตามทหารเป้าหมายไปจนถึงโบราณสถานกลางป่าพวกมันจะเข้ามารุมโจมตี จัดการพวกมันให้หมดแล้ว Lucia Marquez จะมีหนีไป รีบตามไปจัดการเธอให้ได้ Edward ก็จะได้ Templar Key อีกดอกมาครอบครอง ….
*******************************************************************************
Memory 01 – Do not Go Gently
ล่องเรือไปที่เป้าหมายคือจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่จะถึงที่เกาะเล็กที่ชื่อว่า North Cardina จุดพักผ่อนเล็กในทะเลเหนือของเหล่าโจรสลัดที่เงียบสงบและห่างไกลจากเจ้าหน้าที่รัฐ ที่นี่ Edward จะได้พบกับ Black Beard อีกครั้ง เขากำลังดื่มเหล้าอย่างมีความสุขก่อนที่จะเห็นแล้วว่า Edward กำลังจะมาตามเขากลับบ้านอีกแล้ว เมื่อคุยกันได้ซักพักEdward จะเห็นชายคนนึงท่าทางแปลกจึงสะกดรอยตามไปดู
- ลอบตามชายต้องสงสัยไปจนถึงกลางป่าด้านในก็จะพบว่ามันเป็นสายให้พวกทหารของกษตริย์ จอร์จ ที่ลอบตามมาเพื่อหวังจะแก้แค้นกับพวกโจรสลัดที่โจมตีกองเรือของกษตริย์ ขณะที่ Edward กำลังจะรีบไปแจ้งข่าวกับ
Black Beard พวกมันก็สั่งเรือปืนที่ล้อมเกาะนี้อยู่โจมตีเข้ามาทันที ทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่ว รีบกระโดดหนีไปที่เรือJackdaws ให้ทันก่อนเกาะจะระเบิด เมื่อออกเรือไปก็จะพบเรือรบ Man O’ War ขนาดใหญ่เข้ามาโจมตี ไม่มีทางเลือกที่ต้องสู้กับพวกมัน พยายามจัดการเรือ Man O’ War ลงให้ได้ (เนื่องจากเป็นการสู้ตามเนื้อเรื่องคุณจะพบว่ามันหมูมากกว่าที่เจอในกลางทะเลมากนัก)
- เมื่อทำให้ เรือ Man O’ War หยุดนิ่งได้ Black Beard ก็นำทีมบุกขึ้นเรือทันที ในขณะที่กำลังสู้กับทหารบนเรือรบที่ทีมากมายกว่าปกติ Black Beard ก็ต้องเสียท่าโดนทหารศัตรูรุมจากทุกทาง ขณะที่ Edward ที่เห็นท่าไม่ดีก้พยายามบุกฝ่าทหารเข้ามาไปช่วย แต่ก็ตามไปช่วยไม่ทัน Black Beard ถูกทหารรุมฆ่าตายต่อหน้าต่อตาทำให้ Edward ยืนนิ่งด้วยความตกใจทำอะไรไม่ถูกจนถูกทหารเข้ามากระแทกจนตกเรือไปในที่สุด ….
**********************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้ Heavy Shot ในการจมเรือ Man O’ War
* จัดการทหารบนเรือ Man O’ War ครบ 4 คน
**********************************************
Memory 02 – Vainglorious Bastards
ล่องเรือไปที่เป้าหมายคือจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่จะพบเรือ Ranger ของ Vane ทั้งคู่จะนั่งปรึกษากันอย่างเคร่งเครียดถึงการจากไปของ Black Beard ที่ถึงแม้ว่า Vane จะไม่ได้ญาติดีกับ Black Beard จนถึงกับเรียกได้ว่าเพื่อนแต่ก็ต้องยอมรับได้เรื่อง ความแข็งแกร่งที่เป็นจุดรวมจิตใจของเหล่าโจรสลัดของ Black Beard อยู่ไม่น้อย Edwardตัดสินใจที่จะตามหา “หลอดเลือดของเจ้าหญิง” ที่เป็นจุดประสงค์ของ Black Beard และเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฎกรรมนี้ให้ได้ ซึ่ง Vane เองก็จะเสริมด้วยว่าต้องจัดการแม่ทัพของพวก Templar ให้สิ้นซากไปด้วยเลย จากนั้น Vane จะให้Edward ออกตามหาเรือคนทาสของบริษัท Royal African Co. ที่เขาได้ข่าวมาว่ามี “หลอดเลือดของเจ้าหญิง” อยู่บนเรือลำนั้น
- จากนั้นล่องเรือตามเรือของ Vane ไปจนถึงจุดหมายวงกลมสีเขียวในทะเล ใช้กล้องมองหาเรือ Royal African Co. ให้เจอ (ทางขวาของเกาะกลางทะเล) เข้าไปโจมตีเรือเป้าหมาย แล้วบุกขึ้นไปยึดเรือให้สำเร็จ แต่หลังจากสอบสวนกัปตันเรือแล้วจะพบว่าเขาได้ขาย “ผลึกหยดเลือด” ไปก่อนเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปแล้ว แต่เหตุที่ไม่คาดฝันจะเกิดขึ้นเมื่อเจ้าRackham ที่ติดตาม Vane มาตลอดก็เกิดขึ้นการใหญ่ที่จะยึดอำนาจจาก Vane แถมยังได้ลูกน้องส่วนใหญ่เป็นพวกด้วย จนทำให้มันขับไล่ Edward และ Vane ลงจากเรือก่อนที่จะเอาทุกอย่างไปจาก Vane แล้วทิ้งให้ทั้ง 2 คนลอยคออยู่ในทะเลด้วยความสะใจที่โดนกดขี่มานาน
***************************************************
** Optional Objective 100 % **
* โจมตีเรือ Royal African ด้วยการใช้ Ram หัวเรือ
* ใช้เกราะข้างเรือกระแทกเรือ Royal African ให้จม
***************************************************
Memory 03 – Marooned
Edward และ Vane ถูกทิ้งให้ติดเกาะกลางทะเลอยู่หลายเดือนหลังจาก เจ้า Rackham ยึดเรือไปทั้งหมด บนเกาะ isle Providencia แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยอาหารมากมายที่ไม่ทำให้อดแต่ Vane ในฐานะกัปตันที่เคยมีลูกน้องมากมายก็ทนความกดดันที่โดนติดเกาะเป็นเวลานานไม่ได้ จนสติเริ่มจะแตกและคิดว่า Edward เป็นศัตรูที่จะมายึดเอาเกาะนี้ที่เป็นของมันไปอีก จนเอาอาวุธทั้งหมดหนีเข้าป่าไป ซึ่ง Edward ก็ต้องรีบตามไปหยุดมันก่อนจะบ้าตายไปซะก่อน
- ตาม Vane เข้าไปตามทางในป่า ระวังการยิงโจมตีของมันด้วย ไล่ตามมันผ่านน้ำตกไปจนถึงโบราณสถาณด้านในป่าVane จะเริ่มงัดอาวุธหนักทั้งหมดที่มีโจมตีใส่แบบไม่ยั้ง พยายามลอบหลบการโจมตีของมันจนขึ้นไปจับตัวมันให้ได้Edward จะอัด Vane ไปชุดใหญ่เพื่อให้มันหายบ้า Vane ที่ได้สติคืนมาก็ได้แต่หัวเราะ อย่างสะใจกับสิ่งที่มันบ้าไป แต่Edward ไม่ตลกด้วยเพราะเขาจะไม่ยอมตายในเกาะบ้าๆ ด้วยเพราะโดนคนที่กำลังจะบ้าฆ่าตาย หลังจากโดนไอ้กระจอกอย่างเจ้า Rackham ยึดเรือไปแน่นอน …
***************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ระหว่างไล่ตาม Vane เข้าป่า ต้องลาสัตว์ให้ได้ 3 ตัว
* กระโดดจับตัว Vane จากด้านบน
***************************************************
SEQUENCE 9
พฤษภาคม ปี 1719 ที่ Great Inagua …… หลังจากที่ Edward ต้องติดเกาะร้างอยู่เกือบปี แต่ก็โชคดีที่ได้ กัปตันKidd และ Adewale ลูกน้องคนสนิทช่วยตามจับ เจ้า Rackham และเอาเรือกลับคืนมาได้สำเร็จ
หลังจากได้ทุกอย่างกลับคืนมาแล้ว Edward ก็จะยังคงจะออกตามหา “หลอดเลือดของเจ้าหญิง” ต่อตามเจตนารมณ์ของBlack Beard และหยุดยั้งแผนของพวก Templar ให้ได้ โดยเริ่มจากการตามไล่ล่าแม่ทัพคนสำคัญของ Templar ให้หมดเพื่อเป็นหาข้อมูลของแผนการร้ายของพวกมัน จากนั้นเดินทางไปที่จุดเป้าหมายที่เครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ ที่เมืองKingston ต่อ
Memory 01 – Imagine My Surprise
Edward และ Adewale เข้ามาที่เมือง Kingston เพื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท African Co เกี่ยวกับเรื่อง “ผลึกหยดเลือด” ที่ถูกขายไป เจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าคนขายนั้นขายให้ใครไปแต่มีนายทหารอังกฤษที่มีแผลที่หน้ามาถามถึงเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ไปเหมือนกัน Edward รู้ทันทีว่ามันคือ Rogers นั่นเอง
- จากนั้นเข้าไปที่พื้นที่เป้าหมายสีเขียวในพื้นที่เพื่อใช้ Eagle Vision หาตัว Rogers และ Homigold ให้เจอ จากนั้นลอบตามแอบฟังพวกมัน 2 คนคุยกัน ทำให้รู้ว่า “ผลึกหยดเลือด” นั้นถูกกองทัพโปตุเกสนั้นปล้นไป เมื่อลอบตามทั้งคู่ต่อไปจนถึงท่าเรือ Homigold จะเห็นเรือ Jackdaws จอดอยู่ที่ท่าทำให้เขารู้ทันทีว่า Edward ลอบตามมาตลอด มันจึงเรียกทหารให้เข้ามาโจมตีมากมาย สู้เท่าที่จะสู้ได้แล้วหาทางหนีออกจากพื้นที่ได้เลย
***************************************************
** Optional Objective 100 % **
* จัดการหัวหน้าทหาร(ตัวใหญ่ๆใช้ขวาน)ให้ได้ 4 คน
* ทำลายระฆังเตือนภัย 2 จุด
***************************************************
Memory 02 – Trust is Eared
ตอนนี้ Edward รู้แล้วว่า “ผลึกหยดเลือด” นั้นอยู่กับกองทัพโปตุเกส แต่เขาคงบุกไปชิงมาคนเดียวไม่ได้จึงต้องหาคนช่วยและคนที่น่าจะรู้เรื่องนี้ดีที่สุดก็คือ The sage นั่นเอง จากนั้นแล่นเรือออกไปที่จุดเครื่องหมาย ! ในแผนที่ที่เกาะ Principeทางทะเลใต้ได้เลย
- เมื่อเข้ามาถึงบนเกาะจะพบทหารมากมายที่ลาดตระเวณอยู่ พยายามลอบเข้าไปจนถึงค่ายด้านในจะพบร่องรอยการต่อสู้อยู่ จากนั้น The sage ก็จะเข้ามาจี้ปืนใส่ Edward ซึ่ง Edward ก็เล่าเรื่องราวให้ฟังว่าเขาไม่ได้ต้องการมาจับตัวแต่ต้องการให้ช่วย ซึ่งทาง The sage ก็โดนพวกทหารสเปนทรยศหลังได้ข้อมูลจากเขาแล้วก็พยายามจะฆ่าเขา The sageแนะนำตัวว่าเขาชื่อ Bartholomew Robert เป็นกัปตันโจรสลัดที่กุมความลับบางอย่างของ “ผลึกหยดเลือด” หลังจากถูกบังคับและจับกุมจนต้องแกล้งยอมเป็นพวกสเปนเพื่อเอาตัวรอด เขาจึงร่วมมือกับ Edward ทันทีเพื่อช่วยลูกเรือของเขาที่โดนจับไป
- Robert จะบอกว่าคนที่ดูแลที่นี่อยู่คือ 2 แม่ทัพของ Templar Burgess และ Cockram ซึ่งก็พอเหมาะพอดีที่Edwardกำลังจะจัดการพวกมันอยู่พอดี จากนั้นลอบเข้าไปจนถึงค่ายทหารด้านในที่สุดเป้าหมายวงกลมสีเขียวนั้นจะเป็นที่อยู่ของBurgess และ Cockram แต่จริงๆแล้วพวกมันทั้งคู่อยู่บนเรือที่ท่าเรือซึ่งอยู่นอกจุดพื้นที่สีเขียวต่างหาก จากนั้นก็ลอบเข้าไปจัดการสังหารพวกมันได้เลยจะฆ่าแค่คนเดียวหรือโดดลงมาจากเสาเรือฆ่ามัน 2 คนพร้อมกันก็ได้ถ้ามีจังหวะที่ดีพอCockram ที่เคยร่วมงานกับ Edward บอกก่อนตายว่า Templar นั้นไม่ได้ทำเพื่อประเทศชาติกษัตริย์แต่ทำเพื่อ ครอบครัว แล้ว Edward ก็เป็นครอบครัวของ Templar ด้วยไม่ใช่หรอ ?
- สุดท้าย กัปตน Bartholomew Robert กับลูกเรือของเขาก็ได้รวมตัวกันอีกครั้งและได้ศักดิ์ศรีของเขากลับคืนมา เพราะความช่วยเหลือของ Edward เขาจึงเข้ามาจับมือขอบคุณก่อนที่จะสัญญาว่าจะบอกความลับของ ผลึก “หยดเลือดของเจ้าหญิง” และทุกอย่างที่เขารู้ทั้งหมดกับ Edward เพื่อเป็นการตอบแทน
***************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ฆ่าเป้าหมาย Burgess และ Cockram พร้อมๆกัน
* ช่วยพวกโจรสลัดที่ถูกจับเอาไว้ 2 จุดด้วย
***************************************************
SEQUENCE 10
กันยายน ปี 1719 ที่ Misteriosa …Robert ให้ตำแหน่งของผลึกหยดเลือดกับ Edward ตามสัญญา จากนั้นเดินเรือไปที่จุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่จะพบเรือของ Robert ที่เขาจับตัวทหารโปรตุเกสได้และเค้นเอาข้อมูลของตำแหน่งค่ายพักของกองเรือมาเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือมันจะให้ Robert ปลอมตัวสถานะภาพของเรือเพื่อผ่านกองเรือเข้าไปที่ค่ายทหารโปตุเกสต่อ
Memory 01 – Black Burt’s Gambit
- ล่องเรือเข้าไปในทะเลหมอกจนพบเรือของพวกทหารโปตุเกสเป้าหมาย โดดลงน้ำลอบขึ้นเรือมันแล้วปีนขึ้นไปขโมยธงของเรือลงมาโดยอย่าให้พวกมันเห็น จากนั้น Edward จะใช้ธรของทหารโปตุเกสในการปลอมตัวแล่นเรือผ่านกองเรือของพวกมันเข้าไปด้านใน พยายามแล่นช้าและห้ามชนเรืออื่นๆเด็ดขาดจนถึงด้านในค่ายย่อยจะเห็นทหารถือกล่องเข้าไปด้านใน โดดลงเรือแล้วรีบลอบตามมันเข้าไปจนถึงด้านใน แต่เมื่อเปิดดูแล้วจะพบว่าเป็นกล่องเปล่า จากนั้นโดดขึ้นเรือแล่นเข้าด้านในต่อจนถึงค่ายทหารจุดที่ 2 ลงไปลอบจัดการทหารที่เฝ้าอยู่บนหอคอย 2 จุดแล้วเข้าไปที่จอดเรือบัญชาการณ์ของโปตุเกส โหนเชือกโดดไปสังหารกัปตันเรือซะ แล้วลูกเรือของ Robert จะเข้ามายึดเรือเอาไว้ได้สำเร็จ แล้วขับเรือหนีออกจากพื้นที่ได้เลย
- Robert บังคับกัปตันเรือของโปตุเกสจนได้ “ผลึกหยดเลือด” ที่พวกมันได้กลับคืนมาทั้งหมด ในนั้นมีหยดเลือดของบุคคลสำคัญมากมาย มันเอาไว้ทำอะไร Edward ยังไม่เคยรู้เลยซักนิด แต่ Robert ก็มอบ “ผลึกหยดเลือด” ทั้งหมดให้กับEdward เป็นผู้ดูแลตามสัญญา
***************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ระหว่างลอบเข้าไปในค่ายทหารห้ามมีการต่อสู้
* โหนเชือกเข้าไปฆ่ากัปตันเรือโปตุเกส
***************************************************
Memory 02 – Murder and Mayhem
ก่อนที่ Edward จะหาความจริงเกี่ยวกับ “ผลึกหยดเลือด” ต่อเขายังมีภาระกิจแก้แค้นที่ต้องทำต่ออยู่นั่นก็คือไล่ล่าฆ่าแม่ทัพเรือของ Templar ให้หมด โดยเป้าหมายต่อไปคือ Benjamin Hornigold
- จากนั้นเดินเรือไปที่จุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่จะพบเรือของ Robert เขาจะชี้ตำแหน่งของเรือของ Hornigoldให้ซึ่งจะอยู่ในบริเวณพื้นที่วงกลมสีเขียว พยายามส่องหาจนพบเรือ Schooner LV23 นั่นคือเรือของ Hornigold จัดการไล่ล่าทำลายเรือของมันซะจากนั้นเรือของมันจะพยายามหนีไปจนไปเกยตื้นที่เกาะ Santanillas ใกล้ๆ จอดเรือที่ท่าแล้วตามมันไปด้านในเกาะผ่านป่าลอบจัดการทหารไปจนถึงซากโบราณสถาณจะพบ Hornigold ยืนกร่างอยู่บนยอดโบราณสถาณ ลอบขึ้นไปด้านหลังของมันแล้วโดดลงมาเสียบมันได้เลย
*****************************************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ระหว่างลอบเข้าไปในค่ายทหารห้ามมีการต่อสู้จนกว่าจะพบตัว Hornigold
* ฆ่า Hornigold โดยการกระโดดจากที่สูง
******************************************************************************
จุดหมายต่อไปที่จุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่นั้นต้องผ่านอณาเขตของศัตรูที่แข็งแกร่งมากมาย ทั้งเรือระดับ Man o’ War และป้อมระดับสูงเต็มพื้นที่ส่วนใต้ด้วย ซึ่งเป็นการเดินทางที่ไม่สะดวกสบายนัก ซึ่งหวังว่าถึงตอนนี้เรือ Jackdawsของกัปตันเกมเมอร์แต่ละท่านจะแข็งแกร่งมากพอกันแล้วน๊ะครับ
Memory 03 – The Observatory
Edward เดินทางมาที่เกาะ Long Bay จะพบ Robert และลูกเรือของมันรออยู่ ที่นี่คือสถานที่ซ่อนของโบราณสถานที่มีห้องพยากรณ์ที่สามารถดูพลังในผลึกหยดเลือดได้ แต่เส้นทางที่เข้าไปนั้นในป่าเต็มไปด้วยเหล่าผู้พิทักษ์ที่คอยปกป้องที่นี่ และยังไม่ทันที่ Robert จะอธิบายถึงความน่ากลัวของเหล่าผู้พิทักษ์เสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดจากผู้บุกรุกก่อนหน้านี้ก็ดังขึ้นก้องป่าไปทั่ว ซึ่งฝีมือระดับ Robert นั้นไม่สามารถผ่านเข้าไปได้แน่นอน (ไม่งั้นเข้าไปนานแล้ว) จึงต้องใช้สกิลของนักฆ่าของ Edward ในการจัดการพวกมันนั่นเอง
- จากนั้นลอบเข้าไปในป่า ด้านหน้าทางเข้าจะพบกับศพของผู้บุกรุกถูกแขวนเอาไว้อย่างน่าสยดสยอง และระหว่างทางจะมองไม่เห็นเหล่าผู้พิทักษ์เลยเพราะพวกมันซ่อนตัวดีมาก จึงต้องใช้ Eagle Vision ในการมองหาพวกมันตามพงหญ้าจึงจะพบ พยายามลอบจัดการพวกมันที่ละคนจนหมดในแต่ละโซนสีเขียวในพื้นที่ จนถึงหน้าโบราณสถาน พวกของ Robert ก็จะตามเข้ามาด้านในได้
- Robert นำทาง Edward ที่ถือกล่องบรรจุผลึกเลือดเข้าไปด้านในจนถึงห้องโถงขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “ห้องพยากรณ์” Robert จะเริ่มเอาผลึกเลือดของคนชั้นสูงมากมายใส่เข้าไปในกระโหลกแก้ว มันจะแสดงออกมาให้เห็นถึงทุกความคิดและสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตรวมทั้งยังสามารถควบคุมคนๆนั้นได้ด้วย ตั้งแต่นักการเมือง นักบวช เจ้าหญิง รวมทั้ง กษัตริย์ และพลังที่เหนือธรรมชาติที่รอการค้นพบอีกมากมาย ซึ่งที่ Robert พูดมานั้น Edward รู้ทันที่ว่าเป็นพลังที่ไม่ควรเข้าไปแตะต้องมัน ก่อนที่ Robert จะซัด Edward กระเด็นตกน้ำไปก่อนที่จะนำเอากระโหลกแก้วหนีออกจากที่นี่ทันที
- พยายามปีนขึ้นมาจากน้ำทางเสาหินต่างๆจนถึงด้านบนห้องโถงได้ มองหาจุดเรืองแสงสีส้มของ Artifact ข้างๆพนังจะมีจุดที่ใช้ปีนขึ้นด้านจนพบทางออกได้ Edward โกรธจัดที่เขาโดน Robert หลอกให้พาเข้ามาถึงในนี้ แถมยังเอากระโหลกแก้วที่ควรจะเป็นของเขาไปอีก เขาพยายามวิ่งตามอย่างไม่คิดชีวิตจนตกลงมาจากเนินเขาบาดเจ็บ เมื่อตามไปถึงท่าเรือEdward พยายามจะเข้าไปหยุด Robert ในขณะที่ร่างกายบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่เขาจะหมดแรงสลบไปพร้อมความแค้นในที่สุด ……
*********************************************************
** Optional Objective 100 % **
* จัดการพวกผู้พิทักษ์ในป่าโดยไม่ให้พวกมันรู้ตัวเลย
* จัดการพวกผู้พิทักษ์ในป่าจากจุดซ่อนตัว 5 คน
**********************************************************
******************************************************************************
Present Day Mission 4 – The Bunker
ที่ Abstergo Industries John ตื่นจากเครื่อง Animus อีกครั้งและก็เกิดผลข้างเคียงในการบาดเจ็บไม่ต่างอะไรกับEdward เมื่อเริ่มตั้งสติได้ เสียงในเครื่องสื่อสารจะบอกให้เขาเข้าไปยังห้องควบคุมเลเวล 3 ต่อ เมื่อเข้าไปจนถึง Security Room แล้วทำการ Hack ระบบเส้นเสียง [ 7 –3 – 5 –7 ] เพื่อดูกล้องวงจรปิดในห้อง Server Room เมื่อ Dean ออกไปจากห้องแล้ว ก็ลอบเข้าไปด้านในทำการ Hack Server หลัก[ 7 –7 – 3 –7 ] เพื่อดึงเอาข้อมูลทั้งหมดออกมา แต่..จู่ๆพลังบางอย่างก็ปรากฏออกมา Juno Minerva พลเมืองรุ่นแรกหรือจิตแห่ง Eden ยังคงสถิตอยู่ที่นี่ก็ออกมาปกป้องข้อมูลความชั่วที่ดำมืดของ Templar ดั้งเดิมเอาอย่างสุดกำลัง ทำให้เสียงในเครื่องสื่อสารที่คอยออกคำสั่งให้ John ถึงกับตกใจที่Juno ยังสถิตอยู่ มันจึงเลิกการติดต่อแล้วให้ John Log in เข้าเครื่อง Animus เพื่อลงลึกในความทรงจำต่อ
******************************************************************************
SEQUENCE 11
เมษายน ปี 1720 เมือง Kingston ….. Edward Kenway , Mery Read และ Anne Bonny และพวกโจรสลัดอีกหลายคนอยู่ในศาลแห่งเมืองจาไมก้า เพื่อรคำตัดสินว่าผิดจริงในข้อหากบฎต่อราชอณาจักร์และทำตัวเป็นภัยต่อสังคม จนถูกตัดสินให้ถูกขังในกรงเหล็กแล้วตากแดดจนตาย ก่อนจบคำพิพากษา Torres และ Rogers เข้ามาต่อรองครั้งสุดท้ายกับEdward เพื่อให้ช่วยทางการหาตัว Robert ที่เอากระโหลกแก้วหนีไป ซึ่งสำหรับ Edward นั้นเลือกที่จะยอมตายดีกว่าจะรับใช้พวก Templar ชั่วๆ ซึ่ง Rogers ก็ไม่สนถ้า Edward จะเลือกที่จะไม่ร่วมมือเพราะสุดท้ายกองทัพของ Templar ก็จะหาทางทดลองสร้างกระโหลกแก้วที่ทรงพลังจากทารกที่พวกมันจับมาได้แน่นอน ส่วน Edward ก็เชิญติดคุกรอความตายต่อไปก็แล้วกัน …
“ ----------------------------- 4 เดือนต่อมา ----------------------------------------------“
Edward ยังคงต้องทนกับการรับโทษขังเดี่ยวในกรงเหล็กแล้วตกแดดไว้ทั้งวันทั้งคืน แต่ด้วยแรงแค้นทำให้เขาอดทนจนผ่านมันมาได้อย่างน้อยก็ 4 เดือนแล้ว ในคืนหนึ่งที่เงียบสงัดที่กรงขังของ Edward ท่ามกลางทหารที่คอยคุมกัน 4 นาย จู่ๆทหารคนแรกก็เริ่มหายไปในพงหญ้า Edward ไม่รอช้าเขาพยายามสั่นลูกกรงเพื่อให้ทหารที่เหลือหันมานนใจก่อนที่พวกมันจะโดนมือสังหารลอบฆ่าทีละคนจนหมด Ah Tabai ลอบเข้ามาช่วย Edward ด้วยตัวเอง เขาให้มีดนักฆ่ากับ Edwardเพื่อหาทางไปช่วย Mary และ Anne ก่อนจะหนีออกจากที่นี่โดยด่วน
Memory 01 – To Suffer without Dying
- ลอบผ่านจากกรงขังเข้ามายังพื้นที่กลางของค่ายทหาร (ถ้าแวะไปสำรวจกรงเหล็กที่ริมชายหาดจะพบศพของ Rackhamที่ตายคากรงขังอย่าน่าอนาถไปแล้วด้วย) ผ่านไปจนถึงส่วนหน้าทางออกเป้าหมายคือลอบเข้าไปที่คุกใต้ดินที่ทางเข้าอยู่ที่ตึกด้านซ้าย ลอบจัดการทหารในคุก (ถ้าสำรวจดีๆจะพบ vane ที่ยังคงเป็นบ้าถูกขังลืมอยู่ที่นี่ด้วย) จนถึงห้องขังของ Maryและ Anne จะพบว่าพวกเธอบาดเจ็บสาหัสจากการถูกทำให้มีลูกแล้วผ่าเอาเด็กของไปทำพิธี Ah Tabai พาตัว Anne หนีไปรอที่เรือ ส่วน Edward พยายามพาตัว Mary ที่เสียเลือดอย่างมากหนีออกจากที่นี่ Mary รู้ดีว่าเธอไม่รอดแน่แล้ว เธอจึงพยายามบอกกับ Edward ว่าเธอจะอยู่กับเขาตลอดไป ก่อนที่จะสิ้นล้มหายใจไปอย่างสงบในอ้อมแขนของ Edward ซึ่งEdward พยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้แล้วพยายามอุ้มศพของ Mary หลบทหารออกมาจนเรือเล็ก ก่อนที่จะแจ้งข่าวร้ายกับ Anne ที่ถึงกับร้องตะโกนออกมาด้วยความเสียใจ ก่อนที่ Ah Tabai จะมอบชุดนักฆ่าคืนให้ Edward ซึ่งถึงแม้ว่าEdward จะยังไม่รู้จะดำเนินชีวิตยังไงต่อจากนี้ แต่ Ah Tabai ก็เตือนว่า จงอย่าลืมความเป็นตัวเองและชะตากรรมที่ดีที่สุดที่มีก็แล้วกัน …
*********************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ทำลายจุดระฆังเตือนภัย 3 จุด
* หาศพ Rackham และ Vane ที่ถูกขังอยู่ให้พบ
**********************************************************
หลังจากเหตุการ์ณร้ายผ่านไปไม่นาน Edward ก็ได้แต่เมามายไปวันๆเพื่อให้ความทรงจำในอดีตที่โหดร้ายกลับมาซ้ำเติมด้วยฤทธิของสุราให้สะใจ ท่ามกลางความทรงจำที่แสนเศร้าของเหล่าผองเพื่อนที่สูญเสียให้กับอำนาจที่ป่าเถื่อน ความคาดหวังของเมียและจุดยืนของเส้นทางชีวิตของตัวเอง ผสมกับความแค้นกับ Robert ที่ขโมยเอารางวัลชีวิตที่เขาควรจะได้ไป ทั้งหมดพร้อมจะหายไปเมื่อความเมาสิ้นสุดลงจน Adewale ต้นเรือของเขามาพบ Edward ในสภาพเมาเหมือนหมาข้างถนนในเมือง Kingston หลังจากสร่างเมา Adewale จะบอกว่าตอนนี้เรือ Jackdaws เป็นของกัปตันแล้วส่วนเขาตัดสินใจจะไปอยู่กับองค์กรนักฆ่า ก่อนที่ Adewale จะบอกให้ Edward เลือกเส้นทางชีวิตให้แน่นอนว่าจะเป็นโจรสลัดหรือนักฆ่า ? Edward มองไปที่ เรือ Jackdaws ถอนหายใจหนึ่งเฮือกก่อนจะตอบไปว่า จะต้องเลือกทำไมถ้าเขาทำได้ทั้ง 2 อย่าง …
** การออกเดินทางไปยังจุดเป้าหมายหลักต่อไป ตอนนี้จะมีจุด Templar Hunt 02 ขึ้นมาแล้ว ซึ่งจะเป็นจุดสุดท้ายเสียด้วย แวะไปทำก่อนจบ SEQUENCE 11 นี้ก่อนเลย ซึ่งจุด Templar Hunt 02 นั้นจะอยู่ที่เมือง Havana นั่นเอง **
******************************************************************************
Templar Hunt 02
Mission 1 – Bureau under Attack
เข้าไปที่เมือง Havana ที่จุด Templar Hunt จะพบ Rhona Dinsmre สาวน้อยที่เป็นคนขององค์กรนักฆ่ากำลังสู้กับพวกทหารอยู่ Edward พยายามจะถามข้อมูลเรื่อง Templar Key จากเธอ แต่ต้องช่วยเธอจัดการศัตรูให้หมดก่อน จากนั้นเธอจะรับปากว่าจะหาข้อมูลของ Templar Key ที่ Edward ต้องการมาให้
Mission 2– A Thief in the market
เข้าไปพบ Rhona จุด Templar Hunt ต่อไป เธอจะให้เบาะแสว่าเป็นนักล้วงกระเป๋าในตลาด เดินทางไปยังจุดหมายวงกลมเขียวมองหานักล้วงกระเป๋าให้เจอแล้วตามไปจับตัวมันมาให้ได้ แล้วเอาของที่ได้ไปให้ Rhona
Mission 3 – Arms Race
เข้าไปพบ Rhona จุด Templar Hunt ต่อไป แล้วออกไปทำลายถังดินระเบิดในจุดเขียวให้หมดทั้ง 2 จุด
Mission 4– Flint’s End
เข้าไปพบ Rhona จุด Templar Hunt ต่อไปเธอจะให้ตำแหน่งของ Templar ที่มีกุญแจที่ Edward ต้องการ จากนั้นเข้าไปที่พื้นที่สีเขียวจะพบ Flint อยู่ที่ท่าเรือพร้อมทหารมากมาย จัดการทหารให้หมดแล้วเข้าไปฆ่า Flint ที่เรือได้เลย Edwardก็จะได้ Templar Key ดอกสุดท้ายมาครอบครอง
** จากนั้นเอากุญแจ Templar Key ทั้งหมดไปใช้กับประตูที่เก็บชุด Templar Armor ในคฤหาสถ์ของ Julen (ที่ตอนนี้เป็นที่พักของ Edward แล้ว) ที่เกาะ Great Inaqua ได้เลยเท่านี้ก็จะได้ชุด Templar Armor ที่แข็งแกร่งมาสวมใส่แล้ว**
******************************************************************************
Memory 02 – Everything is Permitted
เดินทางมาที่จุดหมาย ! สีเหลืองต่อไปที่โบราณสถาน Tulum จะพบนักฆ่าและชาวบ้านบาดเจ็บมากมาย ซึ่ง Ah Tabai จะบอกว่าทั้งหมดเป็นสิ่งที่ Edward ก่อขึ้นมาเพราะหลังจากความลับเรื่องพลังเหนือธรรมชาติกระจายออกไปพวกกองทัพสเปนก็บุกเพื่อจะยึดที่นี่ทันที และ Edward ก็ต้องเป็นคนหยุดพวกมันด้วย ซึ่ง Edward เองก็เต็มใจอย่างมากที่จะแก้แค้นให้กับ Mary ไปด้วย ก่อนที่ Ah Tabai จะมอบ Rope Dart อาวุธประจำตัวของเหล่าผู้พิทักษ์ให้กับ Edward เพื่อใช้จัดการผู้บุกรุก
เข้าไปในป่าเรียนรู้การใช้ Rope Dart
ในการจัดการศัตรูโดยเชือกจะสามารถจัดการศัตรูได้ 2 รูปแบบคือ
- ในกรณีอยู่บนต้นไม้ กด Y ค้างที่ตัวศัตรูที่อยู่ด้านล่างแล้วกด Y ย้ำจะเป็นการรัดคอศัตรูขึ้นมาแขวนต้นไม้
- ในกรณีอยู่บนพื้นสามารถกด Y ในการใช้เชือกดึงศัตรูให้เข้ามาใกล้แล้วฆ่าทิ้งได้ง่ายขึ้น
จากนั้นลอบจัดกรศัตรูผ่านป่าจนออกมาที่ชายหาดด้านหลังเกาะ จัดการทหารที่ชายหาดให้ครบ 20 คนแล้วขึ้นเรือไปสังหารกัปตันเรือได้เลย
***********************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้เชือก Rope Dart ในการแขวนศัตรูกับต้นไม้ 2 คน
* ใช้เชือก Rope Dart ในการดึงศัตรูให้ล้มก่อนฆ่าทิ้ง 3 คน
************************************************************
หลังจากจบเหตุการ์ณที่ Tulum แล้ว Ah Tabai จะเข้ามาขอบคุณในความกล้าหาญของ Edward ก่อนที่ทั้งคู่จะมองไปที่Anne ที่กำลังนั่งซึมด้วยความเป็นห่วง Edward ตัดสินใจเข้าไปคุยกับเธอ เขารู้ว่าการสูญเสียลูกในท้องไปนั้นมันเจ็บปวด ซึ่งเขาคิดว่า Anne เป็นโจรสลัดสาวที่เข้มแข็งมากพอ แต่จะนั่งรอให้ความเจ็บปวดหายไปทำไมถ้าสามารถออกเรือไปแก้แค้นกับเขาในฐานะต้นเรือคนใหม่ แล้วออกทะเลไปจบทุกอย่างด้วยกัน ..
SEQUENCE 12
Memory 01 – A Government No Longer
เดินทางมาที่จุดหมาย ! สีเหลืองที่เมือง Kingston แล้วเข้าไปพบกับ Anto เจ้าหน้าที่จากองค์กรนักฆ่าที่มาคอยประสานงานงานนี้ให้ เขาจะให้ Edward ฝากอาวุธเอาไว้ที่นี่เอาติดไปแค่มีดนักฆ่าแค่นั้นพอ ก่อนที่เขาจะชี้ตำแหน่งของ เอกราชฑูตของอิตาลี ให้เพื่อเป้าหมายในการลอบฆ่า Woodes Rogers แม่ทัพเรือคนสุดท้ายที่ต้องชดใช้ด้วยความตาย
- Edward ไปที่จุดสีเขียวแล้วใช้ Eagle Vision มองหาจนพบ เอกราชฑูตของอิตาลี แล้วลอบตามเขาไปจนอยู่ในที่เปลี่ยวก็จัดการฆ่ามันได้เลย (จุดที่ดีที่สุดคือกองฟางที่มุมตึกที่มันจะเข้าไปยืนรอให้แค่ไม่นานนักแต่ก็นานพอที่จะเข้าไปฆ่ามันจะในกองฟางได้ ) จากนั้น Edward จะปลอมตัวเป็น เอกราชฑูตของอิตาลี แล้วเดินเข้าไปในงานเลี้ยงที่มี Rogers อยู่ในงาน รอให้มันพูดจบแล้วเดินตามมันออกไปข้างนอกงานแล้วหาที่เปลี่ยวๆเข้าไปลอบฆ่ามันได้เลย และทั้งหมดคือสิ่งที่Rogers และ Templar ต้องชดใช้ที่ทำกับ Mary และลูกของ Anne
*********************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ลอบฆ่าเอกราชฑูตของอิตาลีจากที่ซ่อนตัว (กองฟาง)
* ลอบฆ่า Rogers โดยการกระโดดลงมาจากระเบียงตึก
**********************************************************
Memory 02 – Royal Misfortune
ภาระกิจล้างแค้นต่อไปของ Edward และ Anne ก็คือตามล่า กัปตัน Robert เดินทางมายังจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ที่หน้าเกาะ Principe จะพบเรือที่ถูกทำลายหลายลำซึ่งเข้าไปสอบถามแล้วจะรู้ว่าเป็นฝีมือของเรือ Nosso Sonhorซึ่งมันก็คือเรือของ กัปตัน Robert นั่นเอง จากนั้นก็ขึ้นฝั่งที่เกาะ Principe ได้เลย
- ลอบผ่านป่าเข้าไปตามทางจนถึงท่าเรืออีกฝั่งของเกาะ ใช้ Eagle Vision มองหา กัปตัน Robert จนพบ แต่เมื่อเข้าไปใกล้มัน มันจะหนีขึ้นเรือไปทันที รอจนเรือ Jackdaws มารับแล้วขับเรือทำลายเรือลูกสมุนมันรอบๆให้หมดแล้วไล่ยิงถล่มเรือของ กัปตัน Robert จนพังแล้วขึ้นไปบนเรือจัดการสังหารมันได้เลย ก่อนที่ กัปตัน Robert จะขาดใจตายมันจะบอกให้กำจัดร่างกายของมันซะก่อนที่พวก Templar จะนำไปทดลอง แล้วก็ยังพร่ำบ่นถึงเรื่องอิสระภาพที่มันกำลังสร้างขึ้นมาด้วยพลังของกระโหลดแก้ว แต่เสรีภาพที่เปื้อนเลือดและเพื่ออำนาจของตัวเองฝ่ายเดียวมันก็ไม่ต่างอะไรกับอุมดมการ์ณชั่วๆของพวก Templar หรอก ซึ่ง Edward ไม่มีวันยอมรับได้แน่นอน ก่อนที่ Edward จะเอากระโหลกแก้วและผลึกหยอดเลือดทั้งหมดไปจากมัน
********************************************
** Optional Objective 100 % **
* ฆ่าทหารโดยใช้ถังระเบิดที่อยู่ตามทาง
* ฆ่ากัปตัน Robert ด้วย Rope Dart
*********************************************
Memory 03 – Tainted Blood
เป้าหมายสุดท้ายที่ Edward ต้องปิดบัญชีก็คือจัดการ หัวหน้ากลุ่ม Templar Laureano Torres Y Ayala ให้สิ้นซาก เดินทางมายังเมือง Havana ที่ตอนนี้ในเมืองมีการคุ้มกันแบบเต็มรูปแบบ ทหารเดินไปมาในเมืองแบบพบเจอ Edward เมื่อไหร่มันจะโจมตีมันที ที่หลบซ่อนก็มีน้อย หลังคาก็เต็มไปด้วยมือปืน แต่ยังไง Edward ก็ต้องลอบเข้าไปจนถึงตัวเจ้าหน้าที่ขององค์กรนักฆ่าที่มาประสานงานงานนี้ให้ได้
- เข้าไปที่เป้าหมายจะพบ Rhona รออยู่ Edward จะเอากระโหลกแก้วฝากไปมอบให้กับ Ah Tabai หัวหน้าองค์กรนักฆ่าเก็บรักษาเอาไว้ก่อน แล้วเข้าจะไปจัดการ Torres เอง ก่อนไปเขากำชับให้ Rhona หาข่าว Caroline ภรรยาที่หายไปนานของเขาให้ด้วย จากนั้นเข้าไปที่พื้นที่วงกลมเขียวที่ข้างโบสถ์ ใช้ Eagle Vision มองหาจนพบกลุ่มทหารหน่วย El Tiburon ซึ่งเป็นทหารเกราะหนักองค์รักษ์ส่วนตัวของ Torres พยายามลอบตามพวกมันไป ท่ามกลางทหารศัตรูมากมายในเมืองจนถึงป้อมใหญ่ด้านในให้ได้ รอจนกว่ามันเข้าไปด้านในจนหมด แล้วลอบไปที่กำแพงป้อมทางขวาจะมีทางปีนขึ้นด้านบนกำแพงป้อมได้
- เมื่อเข้ามาถึงในป้อมแล้วใช้ Eagle Vision มองหาก็จะพบ Torres เดินวนอยู่กลางลานด้านล่างพร้อมทหารองค์รักษ์ส่วนตัวในพื้นเปิดกลางแจ้งเสียด้วย Edward จึงโดดลงไปฆ่ามันอย่างง่ายดาย แต่จะพบว่ามันเป็นตัวปลอม แล้ว ทหารหน่วยEl Tiburon ก็จะเข้ามาสู้ทันที ทหารเกราะ El Tiburon นั้นไม่มีอาวุธใดๆทำความเสียหายมันได้เลยยกเว้นปืน พยายามทิ้งระยะห่างแล้วยิงไปเรื่อยๆก็จะจัดการในได้ ก่อนที่เจ้า Torres ตัวปลอมมันได้หัวเราะอย่างสะใจก่อนตายว่าขณะที่แกกำลังวิ่งมาฆ่าข้า นายท่านตัวจริงก็ทำตามแผนสำเร็จไปแล้ว จากนั้นทหารมากมายจะเข้ามาจับกุม พยายามหนีออกจากพื้นที่ให้ได้แล้วซ่อนตัวจน้หตุการณ์สงบจนเป้าหมายจุดเขียวขึ้นมา Edward จะเข้าไปแจ้งข่าวกับ Rhona และหลังจากฟังจากปากของตัวปลอมพูดแล้วทำให้ Edward รู้ทันทีว่าเจ้า Torres ตัวจริงมันจะไปไหนเสียถ้าไม่ใช่ “ห้องพยากรณ์” ที่ Long Bay …
********************************************
** Optional Objective 100 % **
* ใช้ทหารศัตรูเป็นโล่มนุษย์
* ลอบเข้าไปจนถึงป้อมโดยไม่มีการต่อสู้
*********************************************
Memory 04 – Ever A Splinter
เดินทางมายังจุดเครื่องหมาย ! สีเหลืองในแผนที่ที่หน้าเกาะ Long Bay จะพบเรือรบ Man O’ War ขนาดใหญ่คุ้มกันอยู่ จัดการจมเรือมันซะแล้วจอดเรือลงไปที่ Long Bay ได้เลย จากนั้นลอบผ่านป่าเข้าไปจนถึงทางเข้าโบราณสถาน เมื่อเข้าไปจนถึง “ห้องพยากรณ์” จะพบว่าเกิดการปั่นป่วนของพลังอย่างบ้าคลั่งที่เกิดจากที่เจ้า Torres มันใช้กระโหลกของปลอมที่มันสร้างขึ้นมาทำพิธี พื้นในห้องจะเคลื่อนที่ไปมาตลอด แถมยังมีแสงสีทองที่สาดส่องไปมาทั่วห้องซึ่งถึงมันจะสวยงามแต่ถ้าโดนเข้าเมื่อไหร่ก็ตายทันที จัดการทหารกลางห้องแล้วโดดเกาะที่เสาหินที่เลื่อนขึ้นลงทางซ้ายหรือขวาก็ได้ แล้วปีนกำแพงต่อ หลบแสงขึ้นไปจนถึงคานด้านบน จะพบ Torres ยินอยู่หน้าแท่นใส่กระโหลก รอบตัวมันจะมีบาเรียสีทองป้องกันอยู่ แต่มันจะกระพริบดับๆติดๆอยู่ตลอด หาจังหวะที่บาเรียมันดับแล้วโดดไปฆ่ามันได้เลย จบชีวิตหัวหน้าTemplar ผู้มักใหญ่ใฝ่สูงเสียที
Ah Tabai หัวหน้าองค์กรนักฆ่านำเอากระโหลกแก้วมาวางเข้าที่เดิมของมันเพื่อหยุดเหตุร้ายเลวที่จะเกิดขึ้นได้ เขากล่าวขอบคุณ Edward ที่ช่วยทำให้เหตุการ์ณร้ายจบลงด้วยดี Ah Tabai ถาม Edward ด้วยใบหน้าที่เคร่งครึมว่า ต่อไปEdward จะเอายังไงต่อ จะอยู่กับกลุ่มนักฆ่าหรือเปล่า Edward ได้แค่ยิ้มแล้วตอบว่า “บ้าน” เขาจากบ้านมาตามหาความฝันไกลเกินไปแล้ว เขาคิดถึง Caroline ภรรยามากๆแล้ว ก่อนที่ Ah Tabai ใบนึงให้ กระดาษแจ้งข่าวร้ายที่ Edward ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น ในแจ้งข่าวการเสียชีวิตของ Caroline ภรรยาของเขาหลังคลอดลูกสาวคนแรกมาได้ ………
***************************************************
** Optional Objective 100 % **
* ระหว่างผ่านป่า ช่วยผู้พิทักษ์ที่ถูกจับให้หมด 7 จุด
* ใช้พลังแสงเป็นตัวช่วยในการจัดการกับทหารศัตรู
***************************************************
*******************************************************************************
Present Day ………..A Face from the Past
ที่ Abstergo Industries John ขณะที่กำลังครึ่งหลับครึ่งตื่นจากความทรงจำของ Edward เขาถูกชายคนนึงที่ลักลอบเขามาฉีดสารบางอย่างเข้าไปในตัวเขา M.O Boudreauit ชายที่ให้ John ลอบเข้ามาที่ Abstergo Industries เพื่อล้วงความลับที่ชั่วร้ายของ Templar ที่ยังหลงเหลืออยู่พร้อมกับพลังแห่ง Eden Juno Minerva ที่แฝงตัวเข้าไปใน Server หลักAbstergo Industries จากรุ่นสู่รุ่นจากก้อนผลึกแห่ง Eden จนถึง Sever หลักของคอมพิวเตอร์ในสมัยใหม่ เพื่อทำลายกลุ่มนักฆ่าในทุกยุคทุกสมัยที่คอยทิ่มแทงขัดขวางให้หมดสิ้น เพื่อปกป้องความลับของ Templar ที่หวังจะควบคุมประชากรบนโลกอย่างลับๆด้วย “ New World Order “ ผ่านเครือข่าย Abstergo Entertainment ที่พวกมันกำลังจะสร้างขึ้นความบันเทิงที่แฝงภัยหลายที่มนุษย์ชาติยากที่จะหยั่งถึง
.. เพื่อเป้าหมายของสันติสุขบนโลก เฉกเช่นกับที่บรรพบุรุษของเหล่า Templar เคยทำกันมา ความสันติสุขที่สุดที่จะเลวร้ายและไม่เลือกวิธีของเหล่า Templar ยุคใหม่ แล้วใครเล่าที่จะหยุดพวกมัน …..
***********************************************************************
ตุลาคม ปี 1722 ที่ Great Inagua ….
.หลังจากทุกอย่างสงบสุข อย่างน้อยก็ในช่วงนี้ หลายปีผ่านไปเวลาไม่อาจรักษาทุกความเศร้าในใจของ Edward ได้ทั้งหมดแต่อย่างน้อยเมื่อความหวังบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้น มันจะเป็นสิ่งที่ดีพอที่จะแทนความทุกข์ใจทั้งหลายทั้งปวงได้แน่นอน Edward นั่งรอคอยบางสิ่งอยู่ที่ท่าเรือด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังที่คลอไปด้วยบทเพลงของโจรสลัดที่เศร้าสร้อยแต่ก็หอมอบอวลไปด้วยกลิ่นแห่งมิตรภาพ จนเรือลำใหญ่ได้เทียบท่า พร้อมสาวน้อยที่แสนน่ารักมารับดอกไม้ช่อเล็กจาก Edward ที่มอบให้อย่างอ่อนโยน เพื่อต้อนรับลูกสาวสุดที่รักของเขา Jennifer Scott Kenway ที่มารับพ่อของเธอ กลับบ้าน……
Edward แต่งงานครั้งที่ 2 กับ Tessa Stephenson-Oakley แล้วอาศัยอยู่ที่ Queen Anne’s square เขามีลูกชายด้วยกันกับ Tessa 1 คนเกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 1725 ชื่อ Haytham Kenway เขาสอน Haytham ให้ใช้อาวุธ และ ฝึกวิชาการต่อสู้ตั้งแต่เด็ก เขามักจะเปิดกว้างทางความคิดของ Haytham เสมอ เขาไม่เคยยัดเยียดอุดมการณ์ของตัวเองให้Haytham เลย แต่ Edward กลับไม่ต้องการให้ Jenny ลูกสาวเข้ามาพัวพันกับการต้องเป็นมือสังหาร เขาจึงไม่เคยฝึกอะไรให้เธอเลย นอกจากต้องการให้เธอแต่งงานกับคนรับใช้คนสนิท Reginald Birch ก่อนที่เขาจะถูกลอบสังหารในคืนก่อนวันเกิดครบรอบ 10 ปี ของลูกชาย คือวันที่ 3 ธันวาคม 1735 ด้วยฝีมือการสั่งการของ คนรับใช้คนสนิทของเขาReginald Birch …..
…… Edward James Kenway (1693 – 1735)
------------------------------------------ THE END ---------------------------------------------